เชียงราย 25 พ.ค.- ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย สั่งย้ายด่วนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ พร้อมเตรียมgอาผิดทางอาญา-วินัย ปมเรียกรับเงินผู้เสียหาย 70,000 บาท แลกกับการรับเข้าทำงาน
จากกรณีมีผู้เสียหาย 2 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย และ สภ.เมืองเชียงราย ว่าถูกกลุ่มคนเป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน ซึ่งทำงานอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เรียกรับเงินรายละ 70,000 บาท เพื่อแลกกับการช่วยให้เข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ โดยมีการแจ้งความข้อหา “ฉ้อโกง” เมื่อ 23 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดผู้เสียหายเผยว่า ชายหญิงคู่ดังกล่าวได้โอนเงิน 70,000 บาทมาคืนแล้ววันนี้ หลังตกเป็นข่าวดัง พร้อมเผย หลังจากที่มีผู้ติดต่อว่าจะช่วยให้ทำงานที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ผู้เสียหายชายได้ยื่นลาออกจากงานเก่า แล้วนำเงินเก็บไว้ไปจ่ายแลกกับการเข้าทำงาน แต่เมื่อทราบว่าถูกหลอกก็พยายามเจรจาขอเงินคืน จนได้รับคืนครบ ดังนั้นตนทั้ง 2 จึงไม่ติดใจเอาความใดๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ด้านนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ได้สั่งการให้นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่หลอกเอาเงินไว้ที่ สภ.แม่สาย และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยและอาญาที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ได้มีคำสั่งให้ย้าย น.ส.ฤทัยวรรณ ปฏิเสน พนักงานราชการสังกัดอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ในช่วงที่มีการตรวจสอบแต่ให้ไปอยู่ที่สวนรุกขชาติโป่งสลี อ.เมืองเชียงราย ชั่วคราว
สำหรับผลการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า มีขบวนการหลอกลวงคนว่าจะสามารถช่วยให้ทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ จริง โดยเป็นหญิง 1 คนและชาย 1 คนโดยฝ่ายชายเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ และเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่เดือน ก.ย.2562 โดยมีประกาศแจ้งเตือนแล้ว แต่ไม่ปรากฎตัวผู้เสียหายทำให้เรื่องเงียบหายไป กระทั่งครั้งนี้มีผู้ไปแจ้งความร้องทุกข์ 2 ราย ทางอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ จึงได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563 แจ้งข้อเท็จจริงกับประชาชนอีกครั้ง
นายกมลไชย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นขบวนการหลอกลวงที่ไม่มีข้อเท็จจริงเพราะปัจจุบันอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ หรือแม้แต่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ไม่ได้มีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่จะให้เข้ามาทำงานแต่อย่างใด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรับสมัครคนเข้าไปทำงาน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ามีการเปิดกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เกือบ 100 คน