แม่ร้องอัยการ หวั่นคดีลูกสาวถูกครูลวงไปขืนใจไม่ได้รับความเป็นธรรม

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-ทนายรณรงค์ พาครอบครัวเหยื่อครูสอนดนตรีใน จ.ชุมพร ลวงลูกสาวไปล่วงละเมิด ร้องอัยการสูงสุด หวั่นคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นลูกนายตำรวจใหญ่ 


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พร้อมด้วยครอบครัวผู้เสียหายจากคดีครูกระทำชำเราจากจังหวัดชุมพร เดินทางมายืนเรื่องร้องเรียนต่อ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ตรวจสอบสำนวนคดีที่ครูสอนดนตรี อายุ 32 ปี ล่อลวงนักเรียนหญิง วัย 12 ปีโรงเรียนเดียวกัน ไปข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 โดยอ้างว่าจะพาไปช่วยขนกล้วย แต่กลับลงมือกระทำกับเด็ก

มารดาของเด็กหญิง เล่าว่า วันเกิดเหตุได้ส่งลูกสาวไปโรงเรียนตามปกติ ก่อนจะได้รับการติดต่อจากครูประจำชั้นว่าลูกสาวหายตัวไป เมื่อสอบถามเพื่อนร่วมชั้น ก็ทราบว่าเด็กหญิงขึ้นรถตู้ออกไปกับครูสอนดนตรีคนดังกล่าว ภายหลังทราบว่าครูบอกจะพาเด็กหญิงไปช่วยขนกล้วยที่สวน  แต่สุดท้ายกลับพาไปรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร และบังคับให้ลูกสาวเสพยาเสพติด ก่อนจะล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมทั้งมีการข่มขู่ไม่ให้บอกใคร 


อย่างไรก็ตามหลังพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ ครอบครัวก็ทราบว่ามีการไม่ฟ้องบางข้อหา และไม่มีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดในสำนวนเลย ครอบครัวจึงกังวลจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นลูกของนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรด้วย และหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ติดต่อมาจะจ่ายเงิน 3 แสนบาทเพื่อให้จบคดี แต่ตนเองไม่ยอม เพราะต้องการให้ผู้ต้องหาสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำ ซึ่งตนเองก็มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่เห็นว่าครูดุริยางค์เป็นคนพาลูกสาวตนเองไปจนถึงรีสอร์ท และผลตรวจร่างกายของลูกสาวแพทย์ยืนยันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับหนังสือ ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากอัยการจังหวัดชุมพรแล้ว พบว่าอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง 3 ข้อหา คือพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุ 15 ปี ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนข้อหาที่ไม่ฟ้องคือกระทำชำเราศิษย์ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแล ซึ่งเป็นบทฉกรรจ์ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นครูดุริยางค์ ไม่ใช่ครูประจำชั้น และขณะเกิดเหตุผู้เสียหายไม่ได้อยู่ในความดูแลของครูคนดังกล่าว แต่ถูกเรียกออกมาขณะกำลังเรียนวิชาอื่นอยู่ จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามบทกฎหมายนี้ ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ยอมรับว่าไม่มีรายละเอียดในสำนวนนี้ แต่ก็ขอให้ครอบครัวผู้เสียหายมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรม และไม่มีบุคคลใดเข้ามาแทรกแซงการทำคดี โดยหลังจากนี้อัยการจังหวัดชุมพรเตรียมส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลภายในสัปดาห์นี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน