เปรู 14 พ.ย.-ประเทศไทย พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในเวทีเอเปค โดยเฉพาะความโดดเด่นด้านการพัฒนาแบบยั่งยืน ซึ่งประเทศสมาชิกต่างจับตา
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า ในวันนี้ (13 พฤศจิกายน 67 ) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา มายังกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเซียแปซิฟิก หรือ เอเปค ครั้งที่ 31 เและร่วมการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการประชุม เอเปควันนี้ มี 2 วาระสำคัญ คือ การประชุมระดับผู้นำเศรษฐกิจเอเปก และการประชุมแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งถือเป็นโอกาส สำคัญที่นายกรัฐมนตรีไทยจะได้แสดงวิสัยทัศน์ ในระดับสูงมาก ต่อที่ประชุม โดยมี 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1.การพัฒนาการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก หรือ FTAAP
2.การครอบคลุมความเท่าเทียม เช่น ประกันสุขภาพถ้วนหน้า
3.การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ และปัญญาประดิษฐ์
4.ความโดดเด่นของประเทศไทย ด้านการพัฒนาแบบยั่งยืน หรือเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ซึ่งประเทศไทย ต้องการผลักดันแนวทางดังกล่าวต่อไป ซึ่งประเด็นนี้ ผู้นำจากหลายประเทศ ต่างเฝ้าติดตาม การแสดงวิสัยทัศน์จากประเทศไทย
เวทีเอเปค APEC ถือเป็นเวทีที่มีความสำคัญต่อประเทศสมาชิก เนื่องจากเป็นเวทีของความร่วมมือกัน ในกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจ 21 เขต ได้แก่ ออสเตรเลีย, บรูไนดารุสซาลาม, แคนาดา, ชิลี, สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง, จีน, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐเกาหลี, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, เปรู, ฟิลิปปินส์ , สหพันธรัฐรัสเซีย, สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม โดยประเทศสมาชิกได้จัดการประชุมร่วมกันปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ความร่วมมือของประเทศสมาชิก ที่ดำเนินงาน ในรูปแบบเวทีเศรษฐกิจ และการค้าแบบพหุภาคี ประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ได้ถึง 62% ของโลก มีมูลค่าทางการตลาดสูงแตะ 48 %ของโลก และหากการเจรจา ผลักดัน FTAAP ประสบความสำเร็จ จะก่อให้เกิดภาพเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก.-312.-สำนักข่าวไทย