ยุโรป 14 พ.ค.- หลายประเทศในยุโรปทยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อเปิดทางให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป ขณะที่สหภาพยุโรปเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเปิดพรมแดนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
แม้จะยังมีผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันเป็นจำนวนมากแต่หลายประเทศในยุโรปก็กำลังทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคเพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง ที่อังกฤษ รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจซื้อขาย เช่าที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างเปิดทำการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ประชาชนสามารถเดินทางไปพบปะเพื่อฝูงและญาติพี่น้องได้ แต่ยังคงต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป
หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษประกาศผ่อนปรนมาตรการพบว่ารถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนมีผู้โดยสารมาใช้บริการกันมากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็ตาม แต่หลายคนก็ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ทำให้เป็นเรื่องยากในการเว้นระยะห่างระหว่างผู้โดยสารไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถประจำทางก็ตาม สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมในอังกฤษล่าสุดอยู่ที่เกือบ 230,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 33,000 คน
ส่วนที่ฝรั่งเศสเริ่มมีการเปิดชายหาดเป็นแห่งแรกทางภาคตะวันตก โดยเปิดให้ประชาชนเล่นน้ำ เดินเล่นชายหาดและตกปลาได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น. แต่ยังไม่อนุญาตให้มาปิคนิก นั่งเล่น หรืออาบแดด และห้ามรวมตัวกันเกินกว่า 10 คน โดยทางการจะใช้ข้อกำหนดนี้ไปจนถึงเดือนหน้า
ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรี ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นภายหลังการคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 180,000 คน และเสียชีวิตกว่า 27,000 คน
ส่วนที่เบลเยียมก็เตรียมจะเปิดเรียนบางส่วนตั้งแต่วันจันทร์หน้า รวมทั้งจะเปิดพิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสวนสัตว์ ร้านเสริมสวยและตลาดที่มีแผงค้าตั้งแต่ 50 แผงขึ้นไปจะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้ ส่วนร้านอาหาร ศูนย์กีฬาและวัฒนธรรมตลอดจนกิจกรรมต่างๆ จะต้องรอไปอีกอย่างน้อย 3 สัปดาห์
ขณะที่สหภาพยุโรปเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกทยอยเปิดพรมแดนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ขณะเดียวกันก็ยังต้องมีมาตรการดูแลสุขอนามัยต่อไปเช่นผู้โดยสารเครื่องบินจะต้องสวมหน้ากาก และมีการเว้นระยะห่างบนรถไฟ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย