กรุงเทพฯ 4
พ.ค.- รมว.
เกษตรฯ สั่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่รับขึ้นและปรับปรุงทะเบียนให้เกษตรกรที่รายชื่อยังตกหล่น
เสร็จภายใน 15 พฤษภาคมนี้ ย้ำเปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ให้บริการผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ โดยคาดว่า จะมีเกษตรกรเป้าหมายประมาณ 1.67 ล้านราย
นายเฉลิมชัย
ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า
สั่งการด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึง 15
พฤษภาคมให้เร่งประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่ยังไม่เคยขึ้นเคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผู้ที่ไม่ได้ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรมาเกิน
3 ปี
เร่งมาติดต่อหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ โดยเกษตรกรด้านพืช หม่อนไหม
และนาเกลือให้มายังสำนักงานเกษตรอำเภอ/จังหวัด เกษตรกรประมงพื้นบ้าน ประมงชายฝั่ง
และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ติดต่อสำนักงานประมงอำเภอ/จังหวัด
ส่วนเกษตรกรด้านปศุสัตว์ให้ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ/จังหวัด
ทั้งนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและดำเนินการแก่เกษตรกรด้วยความรวดเร็ว
ปัจจุบันบางหน่วยงานเช่น
กรมส่งเสริมการเกษตรมีแอปพลิเคชัน FarmBook สำหรับให้เกษตรกรเข้าไปปรับปรุงข้อมูลในทะเบียนเกี่ยวกับชนิดพืชและพื้นที่ที่เพาะปลูก
หลังจากเพาะปลูกแล้ว 15 วัน แต่เป็นห่วงว่า
เกษตรกรอีกจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ จึงอาจเสียสิทธิ์
พลาดรับเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคโควิด-19
ดังนั้นจึงต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำทุกวัน ในเวลาราชการ ตั้งแต่ 8.30 – 16.30 น. โดยเกษตรกรกลุ่มนี้คาดว่า มีประมาณ
1.67 ล้านราย
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า
ระบบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรนี้ กระทรวงเกษตรฯ
ใช้มานานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกรณีเกิดพิบัติภัยหรือเป็นฐานข้อมูลที่ใช้สนับสนุนเกษตรกรในการประกอบอาชีพ
จึงมั่นใจว่า
การรวบรวมทะเบียนเกษตรกรทั้งหมดเพื่อส่งให้กระทรวงการคลังดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือรายละ
5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน โดยผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) จะทำได้อย่างทั่วถึง เกษตรกรไม่ต้องกลัวรายชื่อตกหล่นหรือกังวลว่า
เข้าใช้ระบบออนไลน์ไม่เป็น ทั้งนี้เมื่อรวบรวมรายชื่อแล้ว กระทรวงเกษตรฯ
จะใช้ระบบประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์สำหรับการคัดกรองไม่ให้รายชื่อผู้มีสิทธิซ้ำซ้อนกัน
กรณีบางรายลงทะเบียนไว้กับหลายหน่วยงาน โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลักสำหรับยืนยันตัวตน
จากนั้นจะส่งให้กระทรวงการคลังตรวจคัดกรองไม่ให้ใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อนกับโครงการเราไม่ทิ้งกัน
มั่นใจว่า กระบวนการทั้งหมดจะไม่ล่าช้า เกษตรกรรับเงินช่วยเหลืองวดแรกได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
“เกษตรกรที่มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งหมดแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ประกอบด้วย โดยด้านเพาะปลูก
หม่อนไหม และนาเกลือขึ้นกับกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านปศุสัตว์ขึ้นกับกรมปศุสัตว์
ด้านประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำขึ้นกับกรมประมง
ชาวสวนยางขึ้นกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
นอกจากนี้ยังมีชาวไร่อ้อยขึ้นกับกระทรวงอุตสาหกรรม
ผู้ปลูกยาสูบขึ้นกับกระทรวงการคลัง
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อตามทะเบียนเกษตรกร
ทั้งนี้หากต้องการตรวจสอบสิทธิ์สามารถติดต่อที่หน่วยงานนั้นๆ ในพื้นที่
และหากไม่พบรายชื่อตนเองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่และทั่วถึง” นายเฉลิมชัยกล่าว.-สำนักข่าวไทย