กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – กนอ.ยืนยันอุตสาหกรรมในระยองมีน้ำพอใช้จนสิ้นสุดฤดูแล้ง พร้อมขอลดใช้น้ำให้ได้ 10 %
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกจากการตรวจสอบปริมาณน้ำทั้ง 4 อ่างเก็บนํ้าหลัก ได้แก่ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำประแสร์ พบว่า มีปริมาณน้ำต้นทุนเพียงพอกับความต้องการจนสิ้นสุดฤดูแล้งในช่วงเดือนมิถุนายนนี้อย่างแน่นอน สำหรับน้ำต้นทุนที่ไม่ขาดแคลนเกิดจากการบริหารจัดการ โดยจะได้มาจากการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์และปริมาณน้ำฝนที่จะไหลเข้าอ่าง คาดการณ์กลางเดือนเมษายนมีปริมาณน้ำประมาณ 93.9 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแผนการใช้น้ำอยู่ที่ประมาณ 88.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำต้นทุนคงเหลือประมาณ 13.6 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ กนอ.มีแผนบริหารจัดการน้ำพื้นที่ภาคตะวันออก โดยจังหวัดระยองเพิ่มนํ้าต้นทุนให้กับ 4 อ่างเก็บน้ำหลัก ได้แก่ การสูบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแกด ลุ่มน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ประมาณ 10 ล้านลูกบาศ์กเมตรในเดือนมีนาคม 2563 เพิ่มน้ำต้นทุนยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง สร้างระบบสูบกลับชั่วคราวจากคลองสะพาน เพื่อสูบนํ้าในกรณีมีฝนตกในพื้นที่ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์/ปรับปรุงระบบสูบกลับวัดละหารไร่จากแม่นํ้าระยองในกรณีที่มีฝนตกในพื้นที่ ไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล มีปริมาณนํ้าประมาณ 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะใช้นํ้าจากคลองนํ้าหู เพื่อช่วยลดการใช้นํ้าจากอ่างเก็บนํ้าหนองปลาไหล ประมาณ 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน อีกทั้งมีมาตรการเร่งด่วนด้วยการเพิ่มน้ำต้นทุนในนิคมอุตสาหกรรม โดยการนำน้ำจากคลองชากหมากมาผ่านการบำบัด ( WWRO) และนำกลับมาใช้ใหม่ ทำให้มีปริมาณน้ำใช้เพิ่มขึ้น 7,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดว่าจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนจังหวัดชลบุรี มีการสูบนํ้าจากอ่างเก็บนํ้าคลองหลวงรัชชโลทรมายังอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี ปริมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อทดแทนปริมาณน้ำที่ส่งมาจากจังหวัดระยอง
“กนอ.ยังขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมไออาร์แอล และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ปรับลดการใช้น้ำ 10% ซึ่งเดือนมีนาคม 2563 มีการใช้น้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 392,205 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพิ่มขึ้นประมาณ 35,916 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 10% แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำอยู่ที่ 404,267 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะเห็นว่ายอดใช้น้ำลดลง อย่างไรก็ตาม กนอ.ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ดำเนินการตามแผนการลดปริมาณน้ำต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตแล้งในครั้งนี้ไปให้ได้”ผู้ว่าฯ กนอ. กล่าว.- สำนักข่าวไทย