7 ทหารย่องเงียบขอขมาศพเหยื่อถูกรุมซ้อมดับ

นครพนม 21 เม.ย. – กรณีทหาร 7 นาย ถูกกล่าวหาว่ารุมทำร้ายชายวัย 33 ปี จนเสียชีวิต ล่าสุดทั้งหมดยังไม่ได้เข้าพบตำรวจ สภ.ธาตุพนม แต่มีรายงานว่าได้ย่องเงียบไปขอขมาศพผู้ถูกทำร้ายเมื่อช่วงเช้า ด้านกองทัพภาคที่ 2 พร้อมเอาผิดหากพลั้งมือก่อเหตุจริง


ความคืบหน้ากรณีนายยุทธนา ซ้ายซา หรือ “ด่อน” อายุ 33 ปี และนายนัตพงศ์ ซ้ายซา หรือ “แดง” อายุ 29 ปี ถูกทหารชุดปฏิบัติการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี รวมทั้งหมด 7 นาย บุกจับยาเสพติดและทำร้ายร่างกายในฐานปฏิบัติการชั่วคราว วัดกัณตะศิลาวาส หรือวัดหลวงปู่กินรี ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จนทำให้นายยุทธนาเสียชีวิต ส่วนนายนัตพงศ์ บาดเจ็บสาหัส


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ญาติผู้เสียชีวิตแจ้งว่า เวลาประมาณ 06.30 น. ทหารทั้ง 7 นายที่ถูกกล่าวหาว่ารุมทำร้ายนายยุทธนาจนถึงแก่ความตาย ได้ย่องเงียบเข้าขอขมาศพแล้ว โดยอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่ในงาน เมื่อไปถึงได้จุดธูปไหว้ศพ ไม่พูดคุยหรือทักทายกับผู้ใด และรีบเดินทางกลับทันที

มีรายงานว่า เกิดเรื่องประหลาดขึ้น ระหว่างที่ทหารทั้งหมดกำลังสวมรองเท้า จู่ๆ ญาติของผู้ตายเกิดอาการสั่นคล้ายถูกผีเข้า ก่อนพูดว่า “อยากเตะคนเด้ … ฆ่ากูเฮ็ดหยัง!?” ทำให้ญาติต่างประหลาดใจ เพราะท่าทางคล้ายกับผู้เสียชีวิตมาก จึงเชื่อว่านายยุทธนาอาจรอคอยการมาขอขมาของทหารทั้ง 7 นายที่ร่วมก่อเหตุ 


ส่วนความคืบหน้าทางคดี ผู้สื่อข่าวเดินทางไป สภ.ธาตุพนม เพื่อติดตามรายละเอียด แต่ได้รับข้อมูลว่า ทหารกลุ่มดังกล่าวยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ส่วนอาการของนายนัตพงศ์ ที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ยังมีอาการเจ็บซี่โครงขวา แต่ยังพูดคุยได้ตามปกติ โดยได้เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะนั้นนั่งกินข้าวอยู่กับพี่ชาย จู่ๆ มีทหารกว่า 10 นาย กรูกันเข้ามา ทำให้ต้องรีบวิ่งหนี แต่ถูกตามตะครุบตัวได้สำเร็จ ก่อนจะถูกทำร้ายร่างกายที่กระท่อมกลางนาก่อนหนึ่งยก และถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง อุ้มขึ้นรถกระบะไปทำร้ายร่างกายต่อที่ฐานปฏิบัติการต่อในวัด จนกระทั่งพี่ชายเสียชีวิต ส่วนตนเองบาดเจ็บสาหัส

ด้าน พล.ต.ราชันต์ ประจันตะเสน โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนทหารทั้ง 7 นาย ได้รับรายงานว่า ชุดปฏิบัติการดังกล่าวได้รับแจ้งมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ได้บุกเข้าไปกระท่อมเป้าหมาย และพบชาย 2 คน จึงได้เข้าจับกุมและนำตัวไปสอบสวน กระทั่งเวลา 23.00 น. 1 ใน 2 คนเกิดอาการเจ็บหลัง เจ้าหน้าที่จึงให้ยารับประทาน แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต โดยพบว่ามีอาการสมองขาดเลือด

อย่างไรก็ตาม ต้นสังกัดได้ตั้้งคณะกรรมการสอบสวน โดยเรียกทหารในชุดปฏิบัติการมาสอบครั้งละ 1 นาย และทั้งหมดยังไม่ได้ถูกคุมขัง ซึ่งหน่วยที่รับผิดชอบอยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัย คู่ขนานไปกับการสอบสวนของ สภ.ธาตุพนม เพราะพนักงานสอบสวนยังต้องรอผลชันสูตรอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องหากกระทำผิดจริง และหากปรากฏว่ามีการปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด หรือพลั้งมือ ต้องยอมรับผิด และกรณีนี้คู่ความทางคดีเป็นพลเรือน จึงต้องไปขึ้นศาลยุติธรรม ไม่ใช่ศาลทหาร. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

จ่อแจ้งข้อหาหนัก 11 ทหารซ้อมสองพี่น้องจนตาย-เจ็บสาหัส

7 ทหารสำนึกผิด เตรียมเข้าขอขมาศพหนุ่มถูกซ้อม ผลชันสูตรสมองช้ำ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ