นนทบุรี 17 เม.ย. -“จุรินทร์” รมว.พาณิชย์ เผย ก.พาณิชย์ ร่วมกับ ก.เกษตรฯ ออก 6 มาตรการ ช่วยเหลือชาวสวนผลไม้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ ได้ดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์ และได้มีการหารือร่วมกันทั้งในส่วนเกษตรกร ล้งผู้ประกอบการตลาด รวมทั้งผู้ส่งออกด้วย โดยมีข้อสรุปร่วมกันถึงมาตรการของกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ในการให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ มาตรการที่ 1 ในส่วนของชาวสวนได้มีมาตรการในการเร่งรัดโดยกระทรวงเกษตรให้การรับรอง GAP ที่สวน เพื่อให้สวนได้รับการรับรองว่ามีมาตรฐานและสามารถส่งออกได้ กับในเรื่องของการเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องคุณภาพ รวมทั้งในเรื่องของการปรับปรุงแรงงานเพื่อให้มาช่วยเก็บคนผลไม้ในพื้นที่ตามเขตแต่ละเขตได้
มาตรการที่2 คือมาตรการช่วยเหลือล้งที่เป็นผู้รวบรวมผลไม้สำหรับล้งนั้นได้มีมาตรการในการช่วยเหลือการรวบรวมผลไม้ กิโลกรัมละ 3 บาท สำหรับล้งโดยใช้เงินคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ของกระทรวงพาณิชย์
ส่วนมาตรการในเรื่องของการช่วยเหลือสหกรณ์ จะมีการชดเชยดอกเบี้ย ให้ร้อยละ 3 เป็นเวลา 6 เดือน ให้กับทางล้ง และสหกรณ์ที่รวบรวมผลไม้นอกจากนั้น จะช่วยเรื่องค่าบริหารในการรวบรวมเพื่อการส่งออกอีกกิโลกรัมละ 5 บาท
มาตรการที่ 3 สำหรับผู้ประกอบการที่มาทำสัญญาตามพระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญา จะมีการช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ที่มาทำสัญญาระยะยาวกับเกษตรกรร้อยละ 3 เป็นเวลา 6 เดือน มีงบประมาณตั้งไว้เรียบร้อย แล้วสำหรับฤดูกาลผลิตนี้
มาตรการที่ 4 สำหรับผู้แปรรูปผลไม้มีมาตรการในการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 เป็นเวลา 10 เดือนให้กับผู้แปรรูปผลไม้ในฤดูกาลผลิตนี้ มาตรการที่ 5 คือผู้ประกอบการตลาดในประเทศ ประกอบด้วยสหกรณ์ต่างๆซึ่งมีอยู่ 800 แห่งทั่วประเทศจะสนับสนุนให้ใช้คาราวานรถธงฟ้าเพื่อช่วยกระจายไปทั่วประเทศแล้วจะมีมาตรการในการรณรงค์เพิ่มการบริโภคในโอกาสเทศกาลต่างๆเพิ่มช่องทางในเรื่องของการค้าออนไลน์ด้วย และมาตรการที่ 6 คือกลุ่มผู้ส่งออกสำหรับกลุ่มผู้ส่งออกนั้นจะมีมาตรการในการที่จะช่วยดำเนินการที่กระทรวงพาณิชย์เป็นตัวกลางจัดเวทีพบปะกันระหว่างผู้นำเข้าผลไม้ของต่างประเทศ กับ ผู้ส่งออกของไทย โดยพบกันบนออนไลน์ เพื่อที่จะสามารถส่งออกผลไม้ได้มากขึ้นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการรวมทั้งการเตรียมแพลตฟอร์มต่างๆที่มีศักยภาพระดับโลกเช่น Tmall ของจีน bigbasket.com ของอินเดีย
Amazon.com ที่สิงคโปร์ และ jatujakmall.com รวมทั้ง cloudcommerce.com ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น เป็นช่องทางหนึ่งที่เราจะระบายไปยังตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งทูตพาณิชย์ตนได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เซลล์แมนผลไม้ประเทศในการช่วยระบายผลไม้จากประเทศไทยไปสู่ประเทศในความรับผิดชอบของทูตพาณิชย์
อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินการในช่วงระยะเวลานี้ขอให้เป็นภาพรวมว่าสำหรับตลาดผลไม้ในภาพภาพรวมนั้นเราจะมุ่งเน้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเน้นทั้งตลาดอ๊อฟไลน์และตลาดออนไลน์ เข้ามาช่วยเสริม ส่วนตลาดในประเทศที่ว่านั้นเน้นตลาดอ๊อฟไลน์ คือตลาดกลาง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากตลาดไทและอีกหลายตลาดทั่วประเทศอย่างดียิ่ง ในวันนี้เป็นแหล่งสำคัญในการช่วยระบายผลไม้รวมทั้งตลาดสดในหลายพื้นที่ของประเทศและรถเร่ผลไม้พุ่มพวงที่เราจัดขึ้นมาเพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆเพิ่มการบริโภครวมทั้งการจัดพื้นที่ให้เกษตรกรสามารถมาขายที่ห้างโมเดิร์นเทรด ซึ่งขณะนี้ ได้เริ่มดำเนินการแล้วแต่ไม่เอิกเกริกมากเนื่องจากเกรงปัญหาเรื่อง social distancing แต่ได้ดำเนินการขึ้นแล้วรวมทั้งพาณิชย์จังหวัดจะต้องทำหน้าที่เซลล์แมนผลไม้จังหวัดเพื่อจัดออเดอร์ไปยังจังหวัดที่มีผลไม้ออกมาก เพื่อเพิ่มการบริโภคในจังหวัด ที่พาณิชย์จังหวัดนั้นๆ รับผิดชอบ เช่นสั่งซื้อลองกองจากนราธิวาสไปขายที่อีสาน เอามะม่วงจากอีสานส่งมาขายกรุงเทพ เป็นหน้าที่ของพาณิชย์จังหวัดได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนตลาดในประเทศนอกจากออฟไลน์ก็จะไปตลาดออนไลน์ขณะนี้เราได้หารือกับไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือในการที่จะช่วยบริการอย่างน้อย 200 ตัน ที่จะไม่คิดค่าขนส่งหรือค่าส่งทางไปรษณีย์ จะช่วยให้สหกรณ์วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสามารถขายผลไม้ผ่านไปรษณีย์ ซึ่งใช้ชื่อว่า “ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท” จะช่วยระบายสินค้าทางออนไลน์ได้อีกช่องทางหนึ่ง
และกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆเช่น ลาซาด้า ช็อปปี้ หรือจตุจักรหรือแพลตฟอร์มอื่นๆเพื่อช่วยเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะให้สหกรณ์กลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนได้เอาผลไม้ของตนเองเข้าไปไว้ในหน้าเพจของแพลตฟอร์มต่างๆเหล่านี้ โดยไม่หักค่าบริการ จะมีตลาดให้ประเทศที่จะเดินหน้าได้ทั้งตลาดออนไลน์และตลาดอ๊อฟไลน์ สัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์จะเริ่มเปิดตัวความร่วมมือระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆที่จะเปิดขายผลไม้ให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศสำหรับตลาดในประเทศ
สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้อาจมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้างบางส่วนนอกจากตลาดออนไลน์ตลาดอ๊อฟไลน์ก็มีตลาดที่เราจะต้องส่งออกไปทางบก อาจมีอุปสรรคบ้างในส่วนของการผ่านด่านต่างๆไปยังเวียดนามข้ามไปยังจีนแต่ทุกอย่างไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ ยังสามารถทำได้อยู่อย่างมีขั้นตอนกระบวนการที่มากขึ้น กระทรวงพาณิชย์ก็จะประสานงานช่วยคลี่คลาย ส่วนทางเรือยังติดปัญหาบางประการเช่นตู้คอนเทนเนอร์ไม่พอพยายามประสานงานกับหน่วยงานอื่น
ส่วนทางอากาศติดปัญหาเรื่องเที่ยวบินที่มีน้อยลงไปมากซึ่งประสานงานกับบริษัทที่เกี่ยวข้องอยู่ว่ามีช่องทางช่วยระบายอย่างไรในอัตราค่าขนส่งที่เกษตรกรผู้ส่งออกสามารถรับได้ไม่เป็นภาระต้นทุนมากจนเกินไปทำให้ราคาแข่งขันในต่างประเทศได้ . – สำนักข่าวไทย