นิสิตมศว เปิดผลศึกษา ขยะก้นบุหรี่ สามารถพัฒนาเป็นคอนกรีตทนไฟ

กทม.15เม.ย.- นิสิตมศว  เผยผลศึกษา  “ปัญหาก้นบุหรี่ ขยะชิ้นเล็ก แต่ผลกระทบไม่เล็กต่อสิ่งแวดล้อม” สามารถพัฒนาเป็นคอนกรีตทนไฟ ทางเลือกใหม่แก้ปัญหาก้นบุหรี่ได้  


นางสาวแพรวา รุ่งทิวาสุวรรณ  นางสาวจัสมิน มาหา และ นายสุทธิพัฒน์ ประทีปพิชัย นิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)  ร่วมกันศึกษาเพื่อนำขยะก้นบุหรี่มาพัฒนารีไซเคิลเป็นคอนกรีตทนไฟ  โดยผลการศึกษาพบว่า ขยะก้นบุหรี่เป็นขยะที่มักถูกมองข้าม  เพราะขนาดเล็กจึงทำให้คิดว่าเป็นขยะที่ไม่อันตรายและไม่สร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่แท้จริงแล้ว ขยะก้นบุหรี่มีปริมาณมากและส่งผลกระทบต่อธรรมชาติไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขยะพลาสติก ปริมาณขยะก้นบุหรี่ที่ถูกทิ้งโดยประมาณจากยอดการจำหน่ายบุหรี่ในปี 2561 เพียงปีเดียวในประเทศไทย มีจำนวนถึง 18,508.15 ล้านมวน หรือ 3146.39 ตัน และผลการสำรวจปริมาณขยะทะเลทั่วโลกของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ในปี 2561 ประเทศไทยติดอันดับที่ 5 ประเทศที่มีขยะในทะเลมากที่สุด เพราะขยะก้นบุหรี่เป็นขยะที่พบมากที่สุดในบริเวณชายหาดส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้างอย่างคาดไม่ถึง พฤติกรรมการทิ้งขยะก้นบุหรี่อย่างเกลื่อนกลาดตามที่สาธารณะของผู้สูบบุหรี่ ทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปนเปื้อนสารเคมี  เช่น ท็อกซิน นิโคติน สารหนู ยาฆ่าแมลง และสารก่อมะเร็งกว่า 60 ชนิด หากปนเปื้อนในดินจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชและปนเปื้อนในน้ำ ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อสัตว์และสิ่งมีชีวิต  นอกจากนี้  ก้นบุหรี่ผลิตจากเซลลูโลสอะซิเตท หรือ พลาสติกที่ผลิตจากพืช จึงใช้ระยะเวลาการย่อยสลายนานถึง 10 ปี ดังนั้นหากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้สูบบุหรี่ ขยะก้นบุหรี่จะถูกสะสมในปริมาณมากจนกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก 


ผลการศึกษาพฤติกรรมผู้สูบบุหรี่ ของ นิสิตวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)  พบว่า ร้อยละ 36 ของผู้สูบบุหรี่มีความรู้ถึงผลกระทบของก้นบุหรี่ต่อสิ่งแวดล้อมในเกณฑ์น้อย  และ ร้อยละ 86 รู้สึกว่าการทิ้งขยะก้นบุหรี่ลงถังสำหรับทิ้งขยะก้นบุหรี่เป็นเรื่องยุ่งยากแม้ถังสำหรับทิ้งขยะก้นบุหรี่มีระยะห่างออกไปเพียงเล็กน้อย  อีกทั้ง ร้อยละ 87.3 ของผู้สูบบุหรี่มีพฤติกรรมการทิ้งก้นบุหรี่โดยการเหยียบลงพื้น นอกจากนี้ ยังไม่มีใครทราบว่าขยะก้นบุหรี่สามารถนำไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ การแสดงให้เห็นถึงประโยชน์จากการรีไซเคิลจึงเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหานี้


ผู้ศึกษาจึงได้พัฒนานำขยะก้นบุหรี่ไปรีไซเคิลเป็นคอนกรีตทนไฟ เพราะคุณสมบัติของเซลลูโลสอะซิเตทจะช่วยสร้างความเหนียวและไม่ติดไฟ  สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของคอนกรีตทนไฟ ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ไม่แตกหักง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการไล่น้ำในคอนกรีตทนไฟ ซึ่งมักจะมีปัญหาแตกหักเสียหาย เพราะการคายน้ำ แต่เมื่อเติมเส้นใยจากก้นบุหรี่ทำให้คายน้ำได้เร็ว แต่ยังคงความแข็งอยู่  สามาถพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ให้กับผู้สนใจต่อไป จึงเป็นการลดปริมาณขยะได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง