กรมศุลกากรเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19

กรุงเทพฯ 13 เม.ย. – กรมศุลกากรออกหลายมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019


นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า ในเดือน มี.ค.63 กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรได้ 2,059 คดี คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 233 ล้านบาท โดยเป็นคดีลักลอบ คิดเป็นร้อยละ 73.3 ของมูลค่าทั้งหมด ทั้งนี้ สินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบนำเข้าที่สำคัญได้แก่ ยาเสพติดให้โทษประเภท เอ็กซ์ตาซี่ 

ส่วนมาตรการของกรมศุลกากรเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)  ด้านการยกเว้นอากรสำหรับสินค้าหน้ากากอนามัย เริ่มตั้งแต่ 24 มี.ค.63 ถึง 20 ก.ย.63 และการลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรตามประกาศกรมศุลกากรที่ 61/2563 ลงวันที่ 26 มี.ค.63 เช่น วัตถุดิบที่ต้องนำไปใช้ผลิตหน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัดและหน้ากากกรองฝุ่นฯ ต้องนำไปผลิตภายใน 1 ปี นับจากการนำเข้า หากไม่สามารถหรือมิได้นำไปใช้ผลิตภายใน 1 ปี นับวันนำของเข้า ต้องเสียอากรตามปกติหรือต้องส่งออกนอกราชอาณาจักร หากจำเป็นต้องใช้ให้ขออนุมัติขยายเวลาจากกรมศุลกากร


และยกเว้นอากรขาเข้าของที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามรายการที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด ตามประกาศกระทรวงการคลังในเรื่องนี้ ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 10 เม.ย. 63 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 63 

ด้านการอำนวยความสะดวกในการผ่านพิธีการศุลกากรสำหรับการยกเว้นอากรของบริจาคตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ภาค 4 ประเภท 11  กรมศุลกากรได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการ สำนักงานศุลกากร นายด่านหรือผู้อำนวยการส่วนที่ได้รับมอบหมายในสังกัด ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีในการอนุมัติให้ยกเว้นได้ เพื่อให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.63

ด้านการอำนวยความสะดวกในการแสดงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E) สำหรับผู้นำเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้รับผลกระทบนั้น ผู้นำเข้าสามารถแสดงสำเนาภาพถ่ายหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E) ประกอบการปฏิบัติพิธีการศุลกากรเพื่อยกเว้นและลดอัตราอากรสำหรับเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน โดยได้ออกประกาศกรมศุลกากรที่ 47/2563 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563


ส่วนการตรวจปล่อยสินค้าและการส่งมอบของกลางที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) มีการเพิ่มความระมัดระวัง เข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้า – ส่งออกสินค้าที่เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาด COVID – 19 และหากมีการตรวจพบการกระทำความผิดและคดีถึงที่สุดแล้ว กรมศุลกากรจะส่งมอบให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID – 19) ต่อไป ซึ่งกรมศุลกากรได้มีการส่งมอบของกลางที่เกี่ยวข้องให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ได้ผ่อนผันให้ขยายเวลาการนำเข้าเป็นชั่วคราว  และผ่อนผันให้ขยายเวลาในการเก็บของกรณีผู้ประกอบการคลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากรและเขตประกอบการเสรีที่ได้รับผลกระทบโดยเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.63

สำหรับ โครงการ CUSTOMS ALLIANCES COVID-19 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) กรมศุลกากรได้จัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละพื้นที่ หรือ ผู้ประสานงานตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การดูแลของกรมศุลกากรเพื่อเตรียมพร้อมตอบข้อซักถาม ประสานงาน แก้ไขปัญหาในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานศุลกากรในพื้นที่ หรือ สายด่วนกรมศุลกากร 1164 หรือศูนย์บริการศุลกากร (Customs Care Center) โทรศัพท์ 02-667-6000, 02-667-7000 ต่อ 20-5844-8 หรือ website: ccc.customs.go.th . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ