กรุงเทพ 18 ก.พ. – กรมศุลกากรจัดพิธีนำของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้วไปทำลาย รวมทั้งสิ้น 602,600 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 46 ล้านบาท
พิธีทำลายของกลางครั้งนี้มีนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธาน พร้อมเปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีนโยบายให้กรมศุลกากรให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า สินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนอย่างบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อรักษากลไกทางการตลาด และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน กรมศุลกากรจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดกวดขันในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดในการลักลอบ หลีกเลี่ยงนำเข้าสินค้าดังกล่าว อีกทั้ง ยังเน้นให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับในวันนี้ กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้รวบรวมของกลางในความผิดตามกฎหมายศุลกากร กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เช่น สินค้าแบรนด์เนม และสินค้าอื่น ๆ โดยจำนวนรวมของกลางทั้งสิ้น 602,600 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 46 ล้านบาท ทั้งนี้ การดำเนินการทางคดีได้ถึงที่สุดและของกลางตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายแล้ว
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า กรมศุลกากร มีกำหนดการนำของกลางดังกล่าวไปทำลายโดยวิธีการเผาทำลาย ณ โรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของ บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และเหยียบ ทับ พร้อมกำจัดซาก ณ บริษัท โกลเด้นดีพ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรกำกับดูแลการทำลายของกลางดังกล่าวเพื่อมิให้ของผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนเหล่านี้กลับคืนสู่สังคมได้อีกต่อไป. -513-สำนักข่าวไทย