ยุโรป 12 เม.ย.- นอกจากสหรัฐที่กำลังย่ำแย่กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว ประเทศในยุโรปอีกหลายประเทศ ก็กำลังถูกไวรัสสายพันธุ์ใหม่เล่นงานหนักไม่แพ้สหรัฐเช่นกัน
เริ่มจากสเปน ตอนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศอันดับ 2 ของโลก ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองจากสหรัฐ จำนวนผู้ติดเชื้อในสเปน ณ ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 160,000 คน เสียชีวิตอีกกว่า 16,000 คน
ทหารของกองทัพสเปนต้องออกมาช่วยกันฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามโรงพยบาบาล ท้องถนน สถานีขนส่ง และบ้านพักคนชรา รวมทั้งใช้โดรนขึ้นบิน เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนอยู่กับบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ด้านอิตาลี ที่เคยเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ตอนนี้กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากสุดอันดับ 3 ของโลก เพราะถูกสหรัฐและสเปนแซงหน้าไป แต่ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของอิตาลี ยังคงสูงติดอันดับ 2 ของโลก โดยมียอดผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 19,000 คน และมียอดผู้ติดเชื้อกว่า 150,000 คน
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีของอิตาลียังเชื่อมั่นว่า อิตาลีจะเอาชนะโรคโควิด-19 ได้ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอิตาลีปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของรัฐ อย่างเคร่งครัด
ต่อกันที่ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในโลกอันดับที่ 4 มีผู้ติดเชื้อสะสมตอนนี้เกือบ 130,000 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมอีกเกือบ 14,000 คน ตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้โรงงานผลิตโลงศพของฝรั่งเศส ต้องทำงานกันล่วงเวลา เพื่อผลิตโลงศพให้ทันความต้องการของครอบครัวผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ปิดท้ายกันที่เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 5 ของโลก ในเวลานี้ มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 12,000 คน เสียชีวิตสะสมอีกเกือบ 3,000 คน อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเยอรมนี มีตัวเลขลดลงติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนเป็นต้นมา แต่ยังคงมากในหลักพันคนอยู่ดี
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานสถานการณ์ของโควิด-19 ล่าสุด อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ตามมาด้วยอิตาลี เป็นอันดับ 2 มีผู้ติดเชื้อกว่า 150,000 ราย เสียชีวิตกว่า 19,000 ราย อันดับ 3 ฝรั่งเศส, อันดับ 4 สเปน และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร ที่มีอังกฤษ, ไอร์แลนด์เหนือ, เวลส์ และสกอตแลนด์.-สำนักข่าวไทย