สำนักข่าวไทย 9เม.ย.-“นพ.ยง” โพสต์ว่าในยามวิกฤติโควิด-19 ขอให้งดจัด รายการแข่งขันวิ่งไปก่อน ไม่ว่าจะวิ่งการกุศลหรือมาราธอน ซึ่งเป็นการรวมคนจำนวนมาก เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ ขอให้อดทนรอแม้จะยาวเป็นปี แล้วค่อยกลับมาจัดเมื่อสถานการณ์พ้นวิกฤติ
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ว่า
“โควิด-19 นักกีฬา นักวิ่ง ในยามวิกฤต ร่างกายที่แข็งแรง เป็นเกาะป้องกันไม่ให้เกิดโรคโควิด-19 ลดความรุนแรงได้ สิ่งที่สำคัญจะต้องประกอบไปด้วย นอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ในนักกีฬาที่เป็นนักวิ่งมาราธอน ผมเชื่อว่าทุกคนมีร่างการแข็งแรงอยู่แล้ว
ข้อเสนอแนะในยามวิฤต โรคโควิด-19 ระบาดการออกกำลังกาย เป็นสิ่งทุกท่านทำดีอยู่แล้ว แต่ในภาวะวิกฤตในการป้องกันโรคเราจะให้ความสำคัญของการดูแลสุขอนามัย physical distancing ลดการ movement ของประชากร ในกลุ่มนักกีฬา ที่ต้องมีการฝึกซ้อม สิ่งที่สำคัญต้องดูแลเรื่องสุขอนามัย การกิน การจับต้องสิ่งของ การล้างมือ ระวังมือ ไม่สะอาดมาถูกใบหน้า เวลามีเหงื่อออกต้องนึกเสมอว่า มือเราล้างมาแล้วหรือยัง หรือมีผ้าสะอาด เครื่องใช้ส่วนตัว มาเช็ดเหงื่อไม่ปะปนกับใคร
ในการออกกำลังกาย วิ่ง เราหายใจแรง โอกาศหายใจเอาลมมาจากระยะไกลกว่าปกติ ในยามวิกฤตแบบนี้ เราต้องคำนึงถึง physical distancing ต้องกำหนดระยะห่างทางสรีระ ไม่น้อยกว่า 2 เมตร จะต้องไม่ไปเป็นกลุ่มใหญ่ ควรมีการวิ่งกับเพื่อน 1-2 คน และกำหนดระยะห่างให้ไม่น้อยกว่า 2 เมตร เพื่อลด social distancing ไป ในตัว
ในยามนี้การแข่งขัน การจัดการวิ่ง ไม่ว่าเพื่อการอะไรก็ตาม เช่น การกุศล ไม่ควรจัดในเวลาแบบนี้ เพราะจัดย้ายไปมาถือเป็นการเคลื่อนย้ายประชากรระยะทางที่วิ่งฝึกซ้อม ควรจะไม่มีการไปพบปะผู้คน ที่อยู่กันหมู่มาก เข้าใจดีว่าทำไมจึงมีการปิดสวนสาธารณะ เพราะจะเป็นแหล่งรวมคนหมู่มาก จึงไม่เหมาะสำหรับเหตุการณ์แบบนี้
ในบางแห่ง ชานเมือง นอกเมืองที่ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือรอบหมู่บ้านที่โล่งแจ้ง ก็สามารถใช้เป็นที่ออกกำลังกายได้ แต่ไม่ควรจะมีบุคคลจำนวนมาก หรือวิ่งรวมกลุ่มหลาย ๆ คน เพราะเราจะต้องนึกว่าที่แยกห่างจากกันแบบนี้ ก็เป็นเพราะเราต้องการป้องกันเขา และเขาก็ป้องกันเรา ไม่ให้ติดโรค
แน่นอนถ้าเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน การออกกำลังกายน่าจะเหมาะ และการวิ่งเป็นการยากที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะจะหายใจไม่ทัน เป็นที่เข้าใจกัน จึงต้องระมัดระวังในสังคมคนหมู่มาก
การนัดรวมตัวไปวิ่งมาราธอนที่ใดที่หนึ่งหรือจัดการเป็นกลุ่ม จึงยังไม่ควรทำในระยะการระบาดของโรค
ขอให้อดใจช่วยกันให้ผ่านพ้นวิกฤตไปก่อน เรายังมีเวลาหลังผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว ค่อยมารวมกิจกรรมกันใหม่ ถึงแม้จะยาวเป็นปีก็ต้องยอมนะครับ” .-สำนักข่าวไทย