กทม. 8 เม.ย. – มาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องรายได้ที่หลายหน่วยงานนำเสนอ อาจไปไม่ถึงคนทุกกลุ่ม ทางออกและที่พึ่งพอที่จะทำเยียวยาคนเหล่านี้ได้คือ โรงจำนำ
ชุดเชี่ยนหมากเงินโบราณ สภาพดีชุดนี้ 4,000 บาท รับหรือไม่ หรือชุดขันตักบาตรโบราณ ทำจากเงินและทองเหลือง ชุดละ 2,000 บาท หรือสร้อยทองโบราณ พร้อมหยกพม่าน้ำดี ชุดนี้หายาก ราคา 40,000 บาท สิ่งเหล่านี้คือของบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เห็น ถูกนำมาแปรเปลี่ยนแลกกับธนบัตร เสริมสภาพคล่องที่โรงจำนำของ กทม.ในยามที่ผลกระทบจากพายุโควิด-19 ซัดกระหน่ำคนทุกกลุ่ม
โรงจำนำวันนี้มีทั้งข้าราชการ พ่อค้า นักศึกษา ประชาชน แม้แต่เจ้าของธุรกิจ ต่างก็หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนนำทรัพย์สินที่ตัวเองพอจะมีมาให้เจ้าหน้าที่ตีราคาแลกกับมูลค่าไปเสริมสภาพคล่อง เช่น เจ้าของธุรกิจหนุ่มคนนี้ตัดใจนำสร้อยทองมาจำนำเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะแทบจะทนพิษบาดแผลจากเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ไหว รายได้จากวันละ 50,000 หดเหลือ 15,000
เวลานี้ไม่ได้มีแค่คนนำของมาจำนำ มีบางคนหาเงินมาไถ่ถอนสิ่งที่จำนำไปก่อนหน้าเพียงเพื่อนำของที่ได้มาไปขายต่อ หวังกำไรเล็กน้อยให้พอต่อลมหายใจในแต่ละเดือน
ส่วนแม่บ้านคนนี้นำทองคำที่สะสมมาตลอดชีวิต 1 บาท กับอีก 2 สลึง มาจำนำ หวังเป็นทุนประทังชีวิตทั้งครอบครัว หลังต้องตกงาน แม้อยากจำนำเพิ่ม แต่ยอมรับหมดตัวแล้ว
ข้อมูลจากผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทองคำถูกนำมาจำนำสูงสุดถึง 90% ที่เหลือเป็นอัญมณี และสิ่งของเบ็ดเตล็ดต่างๆ ส่วนยอดผู้มาใช้บริการทั้ง 21 แห่งทั่ว กทม.เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะหลังจากที่ กทม.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนด้วยการลดดอกเบี้ยเหลือ 10 สตางค์ต่อเดือน สำหรับวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท และดอกเบี้ย 50 สตางค์ต่อเดือน สำหรับวงเงินไม่เกิน 5,000-15,000 บาท พร้อมขยายระยะเวลาตั๋วรับจำนำจาก 4 เดือน 30 วัน เป็น 8 เดือน
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องและช่วยให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้ดีขึ้น โปรโมชั่นดังกล่าว กทม.จะดำเนินการโดยไม่กำหนดระยะเวลา หวังให้เป็นหนึ่งทางเลือกในยามยาก เพราะไม่รู้ว่าวิกฤตนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด. – สำนักข่าวไทย