กรุงเทพฯ 8 เม.ย. – กฟผ. MEA และ PEA เตรียมพร้อมมาตรการรองรับพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน พร้อมจัดทีมเฉพาะกิจเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้า
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า 3 การไฟฟ้า เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยประชาชนในพื้นที่บริเวณประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่ากับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ เนื่องจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนนั้น ในด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีมาตรการรองรับเหตุการณ์กรณีเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง และเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายที่จ่ายไฟเข้าบ้านเรือนล้ม โดยจัดเตรียมเสาไฟฟ้าชั่วคราวและอุปกรณ์ที่จำเป็น พร้อมจัดทีมเฉพาะกิจเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุขัดข้องสามารถเข้าปฏิบัติงานตามแผนฉุกเฉินเพื่อนำสายส่งไฟฟ้าแรงสูงกลับเข้าสู่ระบบ และสามารถดูแลการจ่ายไฟฟ้าไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
นายเริงชัย กล่าวต่อไปว่า 3 การไฟฟ้า มีการออกแบบเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง และเสาไฟฟ้าตามแนวถนนได้มาตรฐานสากล รองรับความรุนแรงจากลมพายุที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนมีการตรวจสอบสภาพเสาให้มีความมั่นคงแข็งแรง เพื่อให้ความมั่นใจว่าหากเกิดเหตุขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบกับการใช้ไฟฟ้าของประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่อยู่ใกล้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาไฟฟ้า สิ่งปลูกสร้าง หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน หากเกิดเหตุการณ์สุดวิสัย และหากพบเหตุผิดปกติที่ไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้าแรงสูง หรือเสาไฟฟ้าแรงสูง โทร. 1416 ศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. เสาไฟฟ้าในพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ) โทร. 1130 MEA Call Center และเสาไฟฟ้าในพื้นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( 74 จังหวัด) โทร. 1129 PEA Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง
“สำหรับในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า 3 การไฟฟ้า เตรียมมาตรการรองรับอย่างเข้มงวดทั้งการคัดเลือกบุคลากรที่มีทักษะหลากหลายแต่ละสาขา อาทิ ไฟฟ้า และเครื่องกล ที่มีความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ที่สำคัญในการผลิต ส่ง และจ่ายไฟฟ้า เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ให้การผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชนสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ” นายเริงชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย