เทพไทแนะรัฐปรับยุทธศาสตร์สู้โควิด-19

กทม. 5 เม.ย. – เทพไทแนะรัฐปรับยุทธศาสตร์สู้โควิด-19 ทำแผนใช้งบ63 ใหม่ โอนงบลงทุนมาเป็นงบกลาง-ฉุกเฉิน จัดเงินเดือนให้ปชช.ที่กระทบเว้นขรก.และคนรวย


นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้facebook live กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า จะยืดเยื้อต่อไปอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่า6เดือน ซึ่งจะตรงกับเดือนกันยายน สิ้นปีงบประมาณแผ่นดิน พ.ศ. 2563 และในระยะเวลา6เดือนนี้ ผู้ที่จะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็มีเพียงคนที่มีอาชีพเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น เพราะมีรายได้ประจำจากเงินเดือนของรัฐบาล ส่วนประชาชนทั่วไป หยุดทำงาน ไม่มีรายได้ประจำ มีเพียงเงินเก็บเพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีพได้คนละไม่เกิน2เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่มีรายได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศมีปัญหาในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างแน่นอน รัฐบาลจึงต้องคิดเอาชีวิตคนไทยให้รอดก่อน แล้วค่อยพัฒนาประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ รัฐบาลต้องปรับยุทธศาสตร์ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 และต้องทำแผนการใช้งบประมาณแผ่นดิน ปี2563 ของประเทศเสียใหม่ โดยขอเสนอการปรับแนวทางการบริหารงบประมาณของประเทศดังนี้คือ หยุดใช้งบประมาณด้านการลงทุนและการพัฒนาด้านวัตถุทั้งหมด มาเป็นลงทุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณ ด้านการลงทุนและการพัฒนาของทุกกระทรวง ทบวง กรม มาเป็นงบกลางหรืองบฉุกเฉินให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีอำนาจใช้งบประมาณนี้ แต่เพียงผู้เดียว และให้จัดเพิ่มงบประมาณด้านการสาธารณสุข เพื่อสู้กับไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ จัดซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ สร้างโรงพยาบาลเฉพาะโรคไวรัสโควิด-19

นายเทพไท ยังเสนอให้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่ง เป็นเงินเดือนให้กับประชาชนทั้งประเทศ ที่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้มีผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทุกกลุ่มที่ไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ยกเว้นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีเงินเดือนประจำ และคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีแล้ว 


“ที่ผ่านมามีหลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงงบประมาณแผ่นดินในหลายแนวทางเช่น ตัดงบซื้ออาวุธของกองทัพ, ตัดงบกระทรวงกลาโหมทั้งหมด, ตัดงบประมาณ10% ของทุกกระทรวง หรือออก พ.ร.ก.เงินกู้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตอบโจทย์ของประเทศ จึงขอเสนอให้รัฐบาลออกเป็นพระราชบัญญัติโอนงบประมาณจากทุกกระทรวง มาเป็นงบกลางโดยเร็วที่สุด และเชื่อว่าทุกฝ่ายก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือสนับสนุนแนวทางนี้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว