3 เม.ย.-เปิดใจแท็กซี่ รับชายวัย 57 ปี ที่เสียชีวิตและตรวจพบว่าติดโควิด-19 เจ้าตัวบอกต้องกักตัวเองกับภรรยา 14 วัน
จากกรณีวันที่ 31 มีนาคม มีผู้เสียชีวิตบนรถไฟขบวนที่ 37 กรุงเทพฯ – สุไหงโก-ลก เป็นชายวัย 57 ปี ชาวสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เดินทางมาจากปากีสถาน ลงเครื่องบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เข้าที่พักย่านรามคำแหง ก่อนจะเดินทางด้วยรถไฟขบวนดังกล่าว เพื่อกลับสุไหงโก-ลก แต่เสียชีวิตก่อนถึงสถานีทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• สหภาพฯ รถไฟร่อนหนังสือผู้บริหารขอหยุดรถทั้งระบบ
• รฟท.กักตัว 11 พนักงานที่สถานี-ร่วมขบวนฯ ผู้โดยสารตายจาก COVID-19
หลังจากที่ชายคนดังกล่าวเสียชีวิต เจ้าหน้าที่นำสารคัดหลั่งไปตรวจพบมีเชื้อโควิด-19 จึงพยายามตามหาคนที่สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่คลิป ขณะชายชาวสุไหงโกลกที่เสียชีวิตเดินไปที่ช่องขายบัตรโดยสาร สถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร 4 ใบ และในภาพเหมือนจะถูกไอใส่ด้วย โดยเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่พบชายหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว เป็นชาวนครศรีธรรมราช มาอาศัยอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี
แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตามหาตั้งแต่เมื่อวาน เป็นคนขับแท็กซี่เขียวเหลือง ที่รับชายชาวสุไหงโกลก มาส่งที่สถานีบางซื่อ ล่าสุด เจอตัวแล้ว บอกว่า ชายคนดังกล่าว เรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นแกร็บ ไปรับตัวที่โรงแรมย่านรามคำแหง เขาช่วยยกสัมภาระขึ้นรถ แล้วผู้โดยสารมานั่งเบาะหน้าคู่กับเขา ใช้เวลาขับรถจากย่านรามคำแหง ราวครึ่งชั่วโมง มาถึงสถานีรถไฟบางซื่อ บนรถไม่ได้คุยอะไรกันมาก แค่ถามว่า ขาเป็นอะไร ซึ่งชายคนดังกล่าวบอกสั้นๆ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ซึ่งตลอดระยะทางที่ขับรถมาส่งผู้โดยสาร สังเกตอาการเหมือนคนหายใจไม่เต็มปอด
คนขับแท็กซี่รายนี้ บอกด้วยว่า หลังเห็นข่าวและตำรวจรถไฟโทรศัพท์แจ้ง วันนี้ได้ไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่แพทย์ยังไม่ตรวจให้ เพราะไม่เข้าเกณฑ์การตรวจฟรีให้กักตัวรอดูอาการ จึงต้องกลับไปกักตัวกับภรรยาที่ห้องพัก 2 คน.-สำนักข่าวไทย