กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดส่งออกข้าวไทยปีนี้ 6.2-6.6 ล้านตัน ต่ำสุดในรอบ 7 ปี จากหลายปัจจัยลบ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการส่งออกข้าวไทยปี 2563 อาจยังต้องเผชิญปัจจัยลบรุมเร้ารอบด้านปัจจัยเดิมที่ยังมีอยู่ให้เห็นต่อเนื่องจากปีก่อน ทั้งการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรง ปัญหาเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาท ภาวะภัยแล้ง จีนเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้าเป็นผู้ส่งออก และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออกข้าวไทยปี 2563 ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 6.2-6.6 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 12.9-18.1 นับเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี
ทั้งนี้ ตลาดข้าวขาวของไทย (ข้าวพื้นแข็ง) เป็นตลาดที่มีปัญหามากที่สุด ท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนไป ทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลง หากไทยยังคงเน้นการผลิตข้าวขาวพื้นแข็งเช่นนี้ต่อไปอาจทำให้อนาคตการส่งออกข้าวไทยต้องย่ำแย่ ดังนั้น ไทยจึงต้องหาทางออกด้วยการใช้ข้าวขาวพื้นนิ่ม ชูขึ้นมาเป็น Fighting Product เพื่อเข้ามาทำตลาดใหม่ ๆ ในระดับกลางที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ เป็นการตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเน้นคุณภาพข้าวดีขึ้นกว่าข้าวพื้นแข็ง และยังเป็นการยกระดับข้าวไทยไปสู่ตลาดข้าวคุณภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่ทั้งชาวนาและผู้ส่งออก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หากไทยสามารถส่งเสริมการปลูกข้าวขาวพื้นนิ่มปี 2563 ประมาณ 0.8 ล้านไร่ ด้วยการมีนโยบายของภาครัฐสนับสนุนแก่ชาวนาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้มีการเติบโตทั้งพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิต ทำให้ไทยสามารถมีผลผลิตข้าวขาวพื้นนิ่มเพื่อส่งออกประมาณ 7 ล้านตันได้ในปี 2570 หรืออีกประมาณ 7 ปีข้างหน้า และเป็นระดับที่ทำให้ไทยสามารถทวงส่วนแบ่งตลาดของข้าวขาวและข้าวหอมมะลิที่หายไปร้อยละ 5.2 คืนกลับมาได้ ทำให้ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในโลกได้มากกว่าร้อยละ 24.5 เนื่องจากปริมาณส่งออกข้าวขาวพื้นนิ่มที่เพิ่มขึ้นจะสามารถชดเชยปริมาณส่งออกข้าวขาวและข้าวหอมมะลิที่ลดลงได้.-สำนักข่าวไทย