กรุงไทยชวนจ่ายค่ารถโดยสาร ขสมก. ผ่านบัตร ลดความเสี่ยงติดโควิด-19

กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สนับสนุนประชาชนชำระค่าโดยสาร ด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดความเสี่ยงจากการจับเงินสด ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีจำหน่ายบนรถโดยสาร ขสมก. ทุกคัน เติมเงินได้หลายช่องทาง พร้อมจัดโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมออกบัตร 30 บาท ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2563



นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ขสมก. ในฐานะหน่วยงานที่ให้บริการประชาชน ด้วยรถโดยสารประจำทาง ตระหนักถึงความสำคัญในร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว จึงได้กำหนดที่นั่ง เว้นระยะห่าง “งดนั่งชิด โควิด ป้องกันได้” พร้อมขอความร่วมมือประชาชนชำระค่าโดยสารด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถชำระค่าโดยสารได้ทุกประเภททั้งรถโดยสารธรรมดาและปรับอากาศ และบัตรมีจำหน่ายบนรถโดยสาร ขสมก. ทุกคัน


นายพิชิต จงสฤษดิ์หวัง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนประชาชนชำระค่าโดยสาร ขสมก. ด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่เชื้อไวรัสผ่านการจับเงินสด เพียงใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ Contactless ของตนเองแตะเพื่อชำระเงินที่เครื่อง EDC ที่ธนาคารได้ติดตั้งไว้ในรถ ขสมก. ทุกคัน สำหรับลูกค้าที่ชำระด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก. พนักงานเก็บค่าโดยสารสามารถตรวจสอบและยืนยันการทำรายการชำระเงินรวมถึงการแจ้งยอดเงินคงเหลือในบัตรโดยสารผ่านเครื่อง EDC ที่ประจำตัวของพนักงานเก็บค่าโดยสารได้ทันที ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการเงินสด และลดต้นทุนการจัดการระบบโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้จัดโปรโมชั่น ฟรีค่าธรรมเนียมการออกบัตร 30 บาท สำหรับบัตรโดยสาร ขสมก. ทุกประเภท พร้อมจำหน่ายบนรถโดยสารประจำทางทุกคัน เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ประชาชนสามารถเติมเงินในบัตร ได้อย่างสะดวกสบายในหลากหลายช่องทาง ได้แก่ สาขาของธนาคารกรุงไทยทุกแห่ง แอปพลิเคชั่น Krungthai Next หรือ Mobile Banking ของธนาคารใดก็ได้ ตู้ ATM ของทุกธนาคารที่รองรับ และตู้บุญเติม ยกเว้น ตู้บุญเติมที่หน้า 7-11 . – สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง