ภูเก็ต 29 มี.ค.-ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานคำสั่งฉบับที่ 11 ปิดเกาะภูเก็ตห้ามการเดินทางเข้าออกทางบกและทางน้ำเว้นการเดินทางทางอากาศเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมถึงวันที่ 30 เมษายนนี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดไวรัส โควิด19
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เซ็นต์คำสั่งลงนามหลัง หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตมีมติเห็นชอบออกมาตรการในการเฝ้าระวังและยับยั้งการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อในคราวประชุม ครั้งที่ 11/2563 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 จึงกำหนดปิดช่องทางเข้า – ออกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยกเว้นช่องทางเดินอากาศ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 ถึง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ดังนี้
1.ปิดช่องทางบก
ด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) โดยห้ามยานพาหนะทุกชนิด และบุคคลเข้า – ออก ยกเว้น ยานพาหนะสำหรับการขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะกู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉินทางการแพทย์ รถที่ใช้สำหรับภารกิจของ ทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยเคร่งครัด
2.ปิดช่องทางน้ำ
๒.๑ ช่องทางเข้า-ออก ทางน้ำระหว่างประเทศ โดยห้ามเรือทุกชนิดและบุคคล เข้า–ออก ยกเว้นเรือบรรทุกสินค้า ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว โดยไม่อนุญาตให้ลูกเรือและ/หรือ คนประจำเรือลงจากเรือโดยเด็ดขาด
๒.๒ ช่องทางเข้า-ออก ทางน้ำระหว่างจังหวัด โดยห้ามเรือทุกชนิดและบุคคล เข้า–ออก ยกเว้นเรือสำหรับการขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง เรือกู้ชีพและขนส่งเครื่องมือแพทย์ เรือพยาบาล เรือฉุกเฉินทางการแพทย์ เรือที่ใช้สำหรับภารกิจของทางราชการ ทั้งนี้ ผู้ควบคุมเรือและเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ซึ่งจำเป็นต้องลงจากเรือ ต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคติดต่อที่ทางราชการกำหนด
ทั้งนี้ การถือปฏิบัติตามข้อ 1 และข้อ 2 ไม่รวมถึงบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ดังต่อไปนี้
1. เป็นกรณีหรือผู้มีเหตุยกเว้น ตามที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด หรืออนุญาตตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไข หรือเงื่อนเวลาก็ได้
2. เป็นบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล ที่มาปฏิบัติงาน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หรือหน่วยงานของประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนบุคคลในครอบครัวบุคคลดังกล่าว โดยติดต่อกระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
บุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น หรือผ่อนผัน ตามข้อ 1–2 ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่า มีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง ซึ่งได้รับการตรวจรับรอง หรือ ออกให้ในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเมื่อเข้าในพื้นที่ ในจังหวัดภูเก็ตแล้ว ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดโดยเคร่งครัด และเจ้าหน้าที่ประจำด่าน มีอำนาจปฏิเสธไม่ให้ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ตรวจพบ หรือ ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ยินยอมให้ตรวจ เดินทางเข้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2563 ถึง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2563 จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น.-สำนักข่าวไทย