ฝ่ายค้านขออย่าดึงดันเร่ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

รัฐสภา 8 เม.ย.- “ฝ่ายค้าน” ขอ “รัฐบาล” อย่าดึงดันเร่ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ขู่ศึกษาให้รอบคอบ หากร่างตก “นายกฯ” ต้องรับผิดชอบ “ยุบสภา-ลาออก” เหตุคุมเสียงรัฐบาลไม่ได้ “ปกรณ์วุฒิ” รับเคยหนุนกฎหมายนี้ แต่ต้องศึกษาให้รัดกุม ซัด “กิตติรัตน์” ไปอ่านหนังสือตรรกะวิบัติ 101 หลังแชร์โพสต์คนค้านกาสิโน เพราะป้องบ่อนเถื่อน


นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล ที่จะพิจารณาในสภาพรุ่งนี้(9 เม.ย.) ว่า พรรคประชาชนค่อนข้างชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว เนื่องจากมีความเร่งรีบจนผิดปกติ ทั้งที่แม้ผ่านร่างกฎหมายไป เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เราอยากเห็นแบบสมบูรณ์แบบกว่าจะเสร็จต้องใช้เวลา 5-6ปี ดังนั้น เหตุใดจึงไม่รออีก 2-3 เดือน เพื่อให้เนื้อหา รายละเอียดรอบคอบกว่านี้ และสิ่งที่รัฐบาลออกมาพูดกลับไปกลับมา ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ทั้งเรื่องวัตถุประสงค์ที่จะเน้นคนไทยหรือต่างชาติ รวมถึงเรื่องใบอนุญาตว่ามีความโปร่งใสเพียงพอหรือไม่ ที่ให้อำนาจกับกรรมการนโยบายว่าจะให้ใครได้รับใบอนุญาตบ้าง อย่างไรก็ตาม ตนทราบดีว่าตอนที่หาเสียง อดีตพรรคก้าวไกลเคยมีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นหนึ่งในนโยบาย แต่ต้องชี้แจงว่าสิ่งที่เราเสนอ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการพิจารณอย่างรอบคอบ

สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้ หากไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไรนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าววา โดยธรรมเนียมทางการเมือง หากร่างกฎหมายถูกส่งมาจากครม.แล้วไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกหรือยุบสภา เพราะแสดงว่าไม่สามารถคุมเสียงของรัฐบาลได้


ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าพรรคการเมืองใดในพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยก็ถอนตัวออกไป จะมองได้หรือไม่ว่ามีคนนอกเข้ามาครอบงำรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบว่านายทักษิณพูดอย่างนั้นจริงหรือไม่

ส่วนกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถือว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การตีความอยู่ที่คณะกรรมาธิการ ทั้ง 35 คณะ ซึ่งคิดว่าคงเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เพราะใช้งบประมาณสูง

เมื่อถามย้ำว่าถ้าเป็นกฎหมายการเงิน ถ้าไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีจะต้องไปใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า โดยธรรมเนียมทางการเมืองจริงๆไม่ได้นับว่าเป็นกฎหมายการเงินอะไร แต่หากคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎหมายมา แต่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นชอบและแพ้เสียงข้างมากในสภา มันก็สะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพเพียงพอในการที่จะบริหารประเทศต่อไปได้


เมื่อถามย้ำว่าเสียงของฝ่ายค้านยังมีหวัง เพราะพรรคประชาชาติและพรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจจะไม่อาจจะไม่โหวตให้ใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็ขอรอดูว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลใดบ้าง เพราะได้ยินมาว่าบางพรรคก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีการต่อรองใดๆหรือไม่ ในการลงมติให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ แต่ยอมรับตรงๆว่าเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านห่างจากเสียงของรัฐบาลอยู่พอสมควร

ส่วนที่มีเสียงสะท้อนคัดค้านจากภายนอกอีกมาก จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลเรื่องความวุ่นวาย แต่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้รัฐบาลกลับมาคิดได้แล้ว ว่าเราจำเป็นต้องเร่งรีบให้ร่าง พ.ร.บ. ผ่านวาระแรกในวันพรุ่งนี้ก่อนปิดสมัยประชุมจริงๆหรือ ในเมื่อเสียงสะท้อนจากสังคมข้างนอก ซึ่งแม้ตนจะตัดสินไม่ได้ว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะฟังเสียงข้างน้อยที่ออกมาเรียกร้องมากแค่ไหน และจะกลับไปพิจารณา อธิบายให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยให้เข้าใจถึงเหตุผลว่าไม่เป็นอย่างที่เข้าใจอย่างไร กระแสต่อต้านก็จะน้อยลง แต่แทนที่รัฐบาลจะทำอย่างนั้น กลับเร่งรีบใช้เสียงข้างมากในสภาเพื่อกลบเสียงข้างนอก ซึ่งตนต้องบอกว่าหลายครั้งไม่ได้ผล และบางครั้งอาจจะทำให้เสียงข้างนอกดังขึ้นด้วยซ้ำ จึงอยากขอให้รัฐบาลรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีการต่อต้านแบบรุนแรงจากสังคมด้วย

สำหรับกรณีที่พรุ่งนี้จะมีม็อบมาคัดค้าน จะซ้ำรอยกับอดีตในอดีตหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนขอกลับมาตั้งต้นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิโดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกคนโดยปราศจากความรุนแรง ส่วนจะนำพาไปสู่อะไร ตนคิดว่ารัฐบาลคงต้องคิดก่อนว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องและต่อต้านมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย แต่ก็ควรต้องรับฟังเสียงจากทุกกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมาแชร์โพสต์ตอบโต้ว่าส่วนที่ออกมาคัดค้านนั้น เขาต้องการปกป้องบ่อนเถื่อนหรือไม่ ถือเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นหรือไม่ สำหรับการผลักดันของรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนอยากขอให้ท่านไปอ่านหนังสือตรรกะวิบัติ 101 ว่าสิ่งที่พูดออกมาเป็นตรรกะหรือไม่

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสำนักข่าวหนึ่งได้เอาคลิปการอภิปรายของนายปกรณ์วุฒิไปลงว่าจะดันเรื่องนี้สุดตัวว่า ตนเคยอภิปรายเรื่องนี้ไป 2 ครั้ง และแน่นอนว่าไม่ได้คัดค้านนโยบายนี้ แต่สิ่งที่ตนพูดชัดเจนคือหากจะทำต้องศึกษาผลกระทบเชิงลึก ซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นแน่นอน อย่างน้อย เรื่องการป้องกันการฟอกเงิน ต้องศึกษาให้แน่ชัดถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจว่าเป็นจริงได้หรือไม่ ซึ่งจากผลการศึกษา ก็ยังมีข้อสงสัยว่าธุรกิจกาสิโน มันเป็น Sunset หรือยัง และผู้เล่นหน้าใหม่โดยเรา จะสมควรเข้าไปเล่นหรือไม่ โดยตอนนี้ยังไม่มีการศึกษาอย่างรอบคอบจากรัฐบาลออกมาเลย จึงมองว่าสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณไม่ควรทำเช่นนี้ ตัดตอนบางส่วนมาเผยแพร่ และขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย