ฝ่ายค้านขออย่าดึงดันเร่ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

รัฐสภา 8 เม.ย.- “ฝ่ายค้าน” ขอ “รัฐบาล” อย่าดึงดันเร่ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ขู่ศึกษาให้รอบคอบ หากร่างตก “นายกฯ” ต้องรับผิดชอบ “ยุบสภา-ลาออก” เหตุคุมเสียงรัฐบาลไม่ได้ “ปกรณ์วุฒิ” รับเคยหนุนกฎหมายนี้ แต่ต้องศึกษาให้รัดกุม ซัด “กิตติรัตน์” ไปอ่านหนังสือตรรกะวิบัติ 101 หลังแชร์โพสต์คนค้านกาสิโน เพราะป้องบ่อนเถื่อน


นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล ที่จะพิจารณาในสภาพรุ่งนี้(9 เม.ย.) ว่า พรรคประชาชนค่อนข้างชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว เนื่องจากมีความเร่งรีบจนผิดปกติ ทั้งที่แม้ผ่านร่างกฎหมายไป เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เราอยากเห็นแบบสมบูรณ์แบบกว่าจะเสร็จต้องใช้เวลา 5-6ปี ดังนั้น เหตุใดจึงไม่รออีก 2-3 เดือน เพื่อให้เนื้อหา รายละเอียดรอบคอบกว่านี้ และสิ่งที่รัฐบาลออกมาพูดกลับไปกลับมา ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ทั้งเรื่องวัตถุประสงค์ที่จะเน้นคนไทยหรือต่างชาติ รวมถึงเรื่องใบอนุญาตว่ามีความโปร่งใสเพียงพอหรือไม่ ที่ให้อำนาจกับกรรมการนโยบายว่าจะให้ใครได้รับใบอนุญาตบ้าง อย่างไรก็ตาม ตนทราบดีว่าตอนที่หาเสียง อดีตพรรคก้าวไกลเคยมีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นหนึ่งในนโยบาย แต่ต้องชี้แจงว่าสิ่งที่เราเสนอ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการพิจารณอย่างรอบคอบ

สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้ หากไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไรนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าววา โดยธรรมเนียมทางการเมือง หากร่างกฎหมายถูกส่งมาจากครม.แล้วไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกหรือยุบสภา เพราะแสดงว่าไม่สามารถคุมเสียงของรัฐบาลได้


ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าพรรคการเมืองใดในพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยก็ถอนตัวออกไป จะมองได้หรือไม่ว่ามีคนนอกเข้ามาครอบงำรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบว่านายทักษิณพูดอย่างนั้นจริงหรือไม่

ส่วนกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถือว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การตีความอยู่ที่คณะกรรมาธิการ ทั้ง 35 คณะ ซึ่งคิดว่าคงเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เพราะใช้งบประมาณสูง

เมื่อถามย้ำว่าถ้าเป็นกฎหมายการเงิน ถ้าไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีจะต้องไปใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า โดยธรรมเนียมทางการเมืองจริงๆไม่ได้นับว่าเป็นกฎหมายการเงินอะไร แต่หากคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎหมายมา แต่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นชอบและแพ้เสียงข้างมากในสภา มันก็สะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพเพียงพอในการที่จะบริหารประเทศต่อไปได้


เมื่อถามย้ำว่าเสียงของฝ่ายค้านยังมีหวัง เพราะพรรคประชาชาติและพรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจจะไม่อาจจะไม่โหวตให้ใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็ขอรอดูว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลใดบ้าง เพราะได้ยินมาว่าบางพรรคก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีการต่อรองใดๆหรือไม่ ในการลงมติให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ แต่ยอมรับตรงๆว่าเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านห่างจากเสียงของรัฐบาลอยู่พอสมควร

ส่วนที่มีเสียงสะท้อนคัดค้านจากภายนอกอีกมาก จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลเรื่องความวุ่นวาย แต่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้รัฐบาลกลับมาคิดได้แล้ว ว่าเราจำเป็นต้องเร่งรีบให้ร่าง พ.ร.บ. ผ่านวาระแรกในวันพรุ่งนี้ก่อนปิดสมัยประชุมจริงๆหรือ ในเมื่อเสียงสะท้อนจากสังคมข้างนอก ซึ่งแม้ตนจะตัดสินไม่ได้ว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะฟังเสียงข้างน้อยที่ออกมาเรียกร้องมากแค่ไหน และจะกลับไปพิจารณา อธิบายให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยให้เข้าใจถึงเหตุผลว่าไม่เป็นอย่างที่เข้าใจอย่างไร กระแสต่อต้านก็จะน้อยลง แต่แทนที่รัฐบาลจะทำอย่างนั้น กลับเร่งรีบใช้เสียงข้างมากในสภาเพื่อกลบเสียงข้างนอก ซึ่งตนต้องบอกว่าหลายครั้งไม่ได้ผล และบางครั้งอาจจะทำให้เสียงข้างนอกดังขึ้นด้วยซ้ำ จึงอยากขอให้รัฐบาลรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีการต่อต้านแบบรุนแรงจากสังคมด้วย

สำหรับกรณีที่พรุ่งนี้จะมีม็อบมาคัดค้าน จะซ้ำรอยกับอดีตในอดีตหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนขอกลับมาตั้งต้นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิโดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกคนโดยปราศจากความรุนแรง ส่วนจะนำพาไปสู่อะไร ตนคิดว่ารัฐบาลคงต้องคิดก่อนว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องและต่อต้านมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย แต่ก็ควรต้องรับฟังเสียงจากทุกกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมาแชร์โพสต์ตอบโต้ว่าส่วนที่ออกมาคัดค้านนั้น เขาต้องการปกป้องบ่อนเถื่อนหรือไม่ ถือเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นหรือไม่ สำหรับการผลักดันของรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนอยากขอให้ท่านไปอ่านหนังสือตรรกะวิบัติ 101 ว่าสิ่งที่พูดออกมาเป็นตรรกะหรือไม่

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสำนักข่าวหนึ่งได้เอาคลิปการอภิปรายของนายปกรณ์วุฒิไปลงว่าจะดันเรื่องนี้สุดตัวว่า ตนเคยอภิปรายเรื่องนี้ไป 2 ครั้ง และแน่นอนว่าไม่ได้คัดค้านนโยบายนี้ แต่สิ่งที่ตนพูดชัดเจนคือหากจะทำต้องศึกษาผลกระทบเชิงลึก ซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นแน่นอน อย่างน้อย เรื่องการป้องกันการฟอกเงิน ต้องศึกษาให้แน่ชัดถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจว่าเป็นจริงได้หรือไม่ ซึ่งจากผลการศึกษา ก็ยังมีข้อสงสัยว่าธุรกิจกาสิโน มันเป็น Sunset หรือยัง และผู้เล่นหน้าใหม่โดยเรา จะสมควรเข้าไปเล่นหรือไม่ โดยตอนนี้ยังไม่มีการศึกษาอย่างรอบคอบจากรัฐบาลออกมาเลย จึงมองว่าสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณไม่ควรทำเช่นนี้ ตัดตอนบางส่วนมาเผยแพร่ และขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย