ฝ่ายค้านขออย่าดึงดันเร่ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

รัฐสภา 8 เม.ย.- “ฝ่ายค้าน” ขอ “รัฐบาล” อย่าดึงดันเร่ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ขู่ศึกษาให้รอบคอบ หากร่างตก “นายกฯ” ต้องรับผิดชอบ “ยุบสภา-ลาออก” เหตุคุมเสียงรัฐบาลไม่ได้ “ปกรณ์วุฒิ” รับเคยหนุนกฎหมายนี้ แต่ต้องศึกษาให้รัดกุม ซัด “กิตติรัตน์” ไปอ่านหนังสือตรรกะวิบัติ 101 หลังแชร์โพสต์คนค้านกาสิโน เพราะป้องบ่อนเถื่อน


นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล ที่จะพิจารณาในสภาพรุ่งนี้(9 เม.ย.) ว่า พรรคประชาชนค่อนข้างชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว เนื่องจากมีความเร่งรีบจนผิดปกติ ทั้งที่แม้ผ่านร่างกฎหมายไป เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เราอยากเห็นแบบสมบูรณ์แบบกว่าจะเสร็จต้องใช้เวลา 5-6ปี ดังนั้น เหตุใดจึงไม่รออีก 2-3 เดือน เพื่อให้เนื้อหา รายละเอียดรอบคอบกว่านี้ และสิ่งที่รัฐบาลออกมาพูดกลับไปกลับมา ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ทั้งเรื่องวัตถุประสงค์ที่จะเน้นคนไทยหรือต่างชาติ รวมถึงเรื่องใบอนุญาตว่ามีความโปร่งใสเพียงพอหรือไม่ ที่ให้อำนาจกับกรรมการนโยบายว่าจะให้ใครได้รับใบอนุญาตบ้าง อย่างไรก็ตาม ตนทราบดีว่าตอนที่หาเสียง อดีตพรรคก้าวไกลเคยมีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นหนึ่งในนโยบาย แต่ต้องชี้แจงว่าสิ่งที่เราเสนอ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการพิจารณอย่างรอบคอบ

สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้ หากไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไรนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าววา โดยธรรมเนียมทางการเมือง หากร่างกฎหมายถูกส่งมาจากครม.แล้วไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกหรือยุบสภา เพราะแสดงว่าไม่สามารถคุมเสียงของรัฐบาลได้


ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าพรรคการเมืองใดในพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยก็ถอนตัวออกไป จะมองได้หรือไม่ว่ามีคนนอกเข้ามาครอบงำรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบว่านายทักษิณพูดอย่างนั้นจริงหรือไม่

ส่วนกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถือว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การตีความอยู่ที่คณะกรรมาธิการ ทั้ง 35 คณะ ซึ่งคิดว่าคงเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เพราะใช้งบประมาณสูง

เมื่อถามย้ำว่าถ้าเป็นกฎหมายการเงิน ถ้าไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีจะต้องไปใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า โดยธรรมเนียมทางการเมืองจริงๆไม่ได้นับว่าเป็นกฎหมายการเงินอะไร แต่หากคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎหมายมา แต่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นชอบและแพ้เสียงข้างมากในสภา มันก็สะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพเพียงพอในการที่จะบริหารประเทศต่อไปได้


เมื่อถามย้ำว่าเสียงของฝ่ายค้านยังมีหวัง เพราะพรรคประชาชาติและพรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจจะไม่อาจจะไม่โหวตให้ใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็ขอรอดูว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลใดบ้าง เพราะได้ยินมาว่าบางพรรคก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีการต่อรองใดๆหรือไม่ ในการลงมติให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ แต่ยอมรับตรงๆว่าเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านห่างจากเสียงของรัฐบาลอยู่พอสมควร

ส่วนที่มีเสียงสะท้อนคัดค้านจากภายนอกอีกมาก จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลเรื่องความวุ่นวาย แต่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้รัฐบาลกลับมาคิดได้แล้ว ว่าเราจำเป็นต้องเร่งรีบให้ร่าง พ.ร.บ. ผ่านวาระแรกในวันพรุ่งนี้ก่อนปิดสมัยประชุมจริงๆหรือ ในเมื่อเสียงสะท้อนจากสังคมข้างนอก ซึ่งแม้ตนจะตัดสินไม่ได้ว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะฟังเสียงข้างน้อยที่ออกมาเรียกร้องมากแค่ไหน และจะกลับไปพิจารณา อธิบายให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยให้เข้าใจถึงเหตุผลว่าไม่เป็นอย่างที่เข้าใจอย่างไร กระแสต่อต้านก็จะน้อยลง แต่แทนที่รัฐบาลจะทำอย่างนั้น กลับเร่งรีบใช้เสียงข้างมากในสภาเพื่อกลบเสียงข้างนอก ซึ่งตนต้องบอกว่าหลายครั้งไม่ได้ผล และบางครั้งอาจจะทำให้เสียงข้างนอกดังขึ้นด้วยซ้ำ จึงอยากขอให้รัฐบาลรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีการต่อต้านแบบรุนแรงจากสังคมด้วย

สำหรับกรณีที่พรุ่งนี้จะมีม็อบมาคัดค้าน จะซ้ำรอยกับอดีตในอดีตหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนขอกลับมาตั้งต้นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิโดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกคนโดยปราศจากความรุนแรง ส่วนจะนำพาไปสู่อะไร ตนคิดว่ารัฐบาลคงต้องคิดก่อนว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องและต่อต้านมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย แต่ก็ควรต้องรับฟังเสียงจากทุกกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมาแชร์โพสต์ตอบโต้ว่าส่วนที่ออกมาคัดค้านนั้น เขาต้องการปกป้องบ่อนเถื่อนหรือไม่ ถือเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นหรือไม่ สำหรับการผลักดันของรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนอยากขอให้ท่านไปอ่านหนังสือตรรกะวิบัติ 101 ว่าสิ่งที่พูดออกมาเป็นตรรกะหรือไม่

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสำนักข่าวหนึ่งได้เอาคลิปการอภิปรายของนายปกรณ์วุฒิไปลงว่าจะดันเรื่องนี้สุดตัวว่า ตนเคยอภิปรายเรื่องนี้ไป 2 ครั้ง และแน่นอนว่าไม่ได้คัดค้านนโยบายนี้ แต่สิ่งที่ตนพูดชัดเจนคือหากจะทำต้องศึกษาผลกระทบเชิงลึก ซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นแน่นอน อย่างน้อย เรื่องการป้องกันการฟอกเงิน ต้องศึกษาให้แน่ชัดถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจว่าเป็นจริงได้หรือไม่ ซึ่งจากผลการศึกษา ก็ยังมีข้อสงสัยว่าธุรกิจกาสิโน มันเป็น Sunset หรือยัง และผู้เล่นหน้าใหม่โดยเรา จะสมควรเข้าไปเล่นหรือไม่ โดยตอนนี้ยังไม่มีการศึกษาอย่างรอบคอบจากรัฐบาลออกมาเลย จึงมองว่าสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณไม่ควรทำเช่นนี้ ตัดตอนบางส่วนมาเผยแพร่ และขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]