ปชป.แนะตม. ปรับบทบาทเฝ้าระวังโควิด-19

กทม. 29 มี.ค. -ส.ส.ปชป. เสียดาย ตม.ไม่ปรับบทบาท เป็นเฝ้าระวังโรคข้ามชาติ ส่งข้อมูลเข้าพักชาวต่างชาติ ให้สาธารณสุขในพื้นที่ ทำหาตัวกลุ่มเสี่ยงยาก สสจ.บางพื้นที่ ตามตัวชาวต่างชาติกลุ่มเสี่ยงไม่เจอ ร่อนหนังสือขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการโรงแรมตามตัว แนะ ปรับการทำงานใหม่ยังไม่สาย เตือน ตรวจเข้มเกสต์เฮาส์เถื่อน หวั่น เป็นแหล่งแพร่ระบาดโควิด-19


นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้เริ่มเกิดปัญหาการตามตัวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน แต่สาธารณสุขจังหวัดในบางพื้นที่หาตัวไม่เจอ จนต้องส่งข้อความขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงแรมให้ช่วยตรวจสอบแขกที่เข้าพัก แจ้งไปยังสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพราะมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ซึ่งความจริงแล้วผู้ที่มีฐานข้อมูลใหญ่ในเรื่องนี้คือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)เพราะตั้งแต่ชาวต่างชาติเหยียบเข้าประเทศไทย ด่านแรกที่ต้องผ่านคือ ตม. จากนั้นเมื่อคนเหล่านี้เข้าที่พัก โรงแรม หรือสถานประกอบการที่ให้บริการที่พัก ที่ได้มาตรฐาน จะต้องรายงานต่อที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในเขตพื้นที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ตามแบบตม.30 ทันทีที่มีชาวต่างชาติเข้าพักอาศัย

” ตม.ควรปรับบทบาททำงานในเชิงรุก จากที่เคยมุ่งเรื่องอาชญากรข้ามชาติ มาเพิ่มเรื่องการเฝ้าระวังโรคข้ามชาติ ด้วยการส่งต่อข้อมูลที่ได้จากโรงแรม สถานประกอบการให้สาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ได้ข้อมูลที่เท่าทันสถานการณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเฝ้าระวังโรค แต่น่าเสียดายที่เสนอไปตั้งแต่หลายเดือน ซึ่งการแพร่ระบาดยังไม่หนักหนาเท่านี้ ถ้า ตม.ทำตามที่ได้เสนอไป ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์ที่สาธารณสุขในบางพื้นที่ตามหาตัวชาวต่างชาติที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไม่เจอ มาเริ่มทำในตอนนี้ก็ยังไม่สาย จึงอยากให้ตม.พิจารณาข้อเสนอนี้เพื่อนำไปปรับการทำงานด้วย” นางสาวพิมพ์รพี กล่าว


นางสาวพิมพ์รพี กล่าวด้วยว่า มาตรการที่เสนอจะได้ผลในกรณีสถานประกอบการดำเนินการตามกฎหมาย แต่ยังมีเกสต์เฮาส์เถื่อน หรือโรงแรมขนาดเล็กที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มีการรายงานการเข้าพักของชาวต่างชาติให้ตม.รับทราบตามกฎหมาย ก็จะกลายเป็นช่องโหว่ที่อาจกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยากต่อการสอบสวนต้นตอได้ เนื่องจากในขณะนี้โรงแรม สถานประกอบการด้านที่พัก ไม่ได้ถูกรัฐสั่งปิดกิจการ ดังนั้นต้องมีการตรวสอบอย่างเข้มข้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน