ทำเนียบรัฐบาล 25 มี.ค. – นายกรัฐมนตรี แถลงเตรียมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วราชอาณาจักร 26 มี.ค.-30 เม.ย.63 ยกระดับทุกมิติควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในขณะนี้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อหยุดการแพร่ระบาด และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำภารกิจนี้ และเข้ามาบัญชาการในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน รักษา เยียวยา ฟื้นฟูประเทศ พร้อมยกระดับศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 เป็นหน่วยงานพิเศษ เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงาน และสั่งการให้ทุกส่วนราชการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขจัดปัญหายุ่งยากต่างๆ
นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายภารกิจหัวหน้าด้านแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนี้
ปลัด ก.สาธารณสุข หัวหน้ารับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
ปลัด ก.มหาดไทย หัวหน้ารับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม.
ปลัด ก.พาณิชย์ หัวหน้ารับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านควบคุมสินค้าและเวชภัณฑ์
ปลัด ก.ต่างประเทศ หัวหน้ารับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านต่างประเทศ ช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับผิดชอบด้านความมั่นคง การปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ รวมทั้งมีทีมงานทุกภาคส่วนเป็นคณะที่ปรึกษา
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้มีการแถลงรายละเอียดความคืบหน้าของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพียงวันละ 1 ครั้ง โดยนำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส เพื่อป้องกันความสับสน เชื่อหากทำได้เช่นนี้ สื่อมวลชนจะเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้วิกฤติครั้งนี้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยืนยันไม่มีการปิดร้านค้าจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม อาจกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนบ้าง แต่ขอให้ทุกคนร่วมมือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เสียสละเพื่อส่วนรวม รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เชื่อว่าเราจะก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปได้
สำหรับผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ขอให้ร่วมแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง จากการแถลงข่าวประจำวัน ช่วยกันรายงานและต่อต้านการแชร์ข่าวปลอม เพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้รับรู้และเข้าใจข้อมูลได้ง่าย และกว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ยังเตือนกลุ่มคนที่ฉวยโอกาสหาผลประโยชน์บนความทุกข์ร้อนของประชาชน โดยจะใช้กฎหมายจัดการกับคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาดและไม่ปรานี และภายใน 1 สัปดาห์ จะกระจายทีมงานลงพื้นที่ไปสำรวจปัญหาและความต้องการของประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย โดยให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าสุดความสามารถ นำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย มีสวัสดิภาพ และกลับมาแข็งแรงดังเดิม ขอให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน และชนะไปด้วยกัน. – สำนักข่าวไทย