กรุงเทพ ฯ 2 4 มี.ค. – ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือกองทุนรวมที่ขาดสภาพคล่อง รวมถึงกองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนเปิดตราสารหนี้รวม ทุกกองทุน ด้วยอัตราดอกเบี้ยนโยบายลบร้อยละ 0.50 ต่อปี
กรุงเทพฯ 24 มี.ค.63 – นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการออกมาตรการช่วยเหลือกองทุนรวมที่ได้รับผลกระทบจากการขาดสภาพคล่องในตลาดการเงิน (Mutual Fund Liquidity Facility: MFLF) ล่าสุดได้มีการปรับหลักเกณฑ์ ให้ครอบคลุมตราสารจากทุกกองทุนที่เป็นกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund: MMF) และกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิด (Daily Fixed Income Fund: Daily FI) ทุกกองทุน
ซึ่งแนวทางการให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องจะให้ผ่านสถาบันการเงินใน 2 รูปแบบ คือสถาบันการเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน MMF และ Daily FI ที่มีสินทรัพย์คุณภาพตามเกณฑ์ ธปท. ไม่ต่ำกว่า 70% ของสินทรัพย์ที่ลงทุน และสถาบันการเงินที่ให้ความช่วยเหลือกองทุนรวม MMF และ Daily FI ผ่านธุรกรรม repo โดยมีสัญญาว่าจะขายคืน(Repurchase Agreement) สามารถนำสินทรัพย์ตามเงื่อนไขที่ ธปท. กำหนด มาใช้เป็นหลักประกันในการขอสภาพคล่อง จาก ธปท. ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเท่ากับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลบร้อยละ 0.5 ต่อปี ระยะเวลา ไม่เกิน 6 เดือน โดยอาจ Rollover ต่อ หรือขอสิ้นสุดสัญญาก่อนครบกำหนด
ทั้งนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวมหลังสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ตึงตัวและกลไกตลาดการเงินทำงานต่างจากปกติ โดย ธปท. พร้อมพิจารณามาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้ตลาดการเงินกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ร่วมตลาด.
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ออกประกาศให้บริษัทจัดการกองทุนรวมสามารถกู้ยืมเงินหรือทำธุรกรรม repo เพื่อการบริหารสภาพคล่องสำหรับกองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกอง โดยธุรกรรมดังกล่าวได้ขยายเป็นไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ณ สิ้นวัน จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 10 ทั้งนี้ มีผลจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยให้บริษัทจัดการกองทุนรวมสามารถบริหารสินทรัพย์ของกองทุนได้คล่องตัวขึ้นภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19-สำนักข่าวไทย