กรุงเทพฯ 24 มี.ค. – สอน.ยืนยันโควิด-19 ระบาด น้ำตาลไม่ขาดแคลน เตรียม 2.4 ล้านตันไว้ใช้บริโภค หากไม่พอพร้อมแบ่งน้ำตาลส่งออกมาเพิ่ม
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ยืนยันกับสำนักข่าวไทยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ดูแลให้คนไทยและภาคอุตสาหกรรมอาหารมีน้ำตาลไว้ใช้อย่างเพียงพอ โดยปีนี้เตรียมน้ำตาลบริโภคในประเทศในภาพรวม 2.4 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยปีที่ผ่านมามียอดการใช้น้ำตาลในประเทศรวม 2.5 ล้านตัน ทั้งนี้ ภาพรวมของการบริโภคน้ำตาลในประเทศจะอยู่ในช่วง 2.4 – 2.6 ล้านตันมาอย่างต่อเนื่องขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีน้ำตาลที่วางจำหน่ายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือตามร้านสะดวกซื้อ หากมีการซื้อจำนวนมากจะทำให้ของที่วางจำหน่ายหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ทางห้างจะทยอยเติมอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ สอน.ยืนยันว่าน้ำตาลในประเทศจะมีเพียงพออย่างแน่นอนไม่ขาดแคลน เพราะหากมีความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ก็สามารถที่จะบริหารจัดการแบ่งน้ำตาลสำหรับการส่งออกมาเพื่อใช้บริโภคภายในประเทศได้
นายเอกภัทร กล่าวว่า ภาพรวมการผลิตน้ำตาลของประเทศไทยปีนี้จะทำได้รวม 8.24 ล้านตัน บริโภคภายในประเทศ 2.4 ล้านตัน ที่เหลือเป็นน้ำตาลส่งออก ด้านสถานการณ์ราคาน้ำตาลตลาดโลกขณะนี้ปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 11 เซนต่อปอนด์ เนื่องจากราคาน้ำมันโลกลดลงส่งผลให้บราซิลผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลกจากเดิมใช้น้ำตาลผลิตเอทานอลได้ปรับลดการผลิตเอทานอลหันมาผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทยฤดูกาลผลิต 2562/2563 มีอ้อยเข้าหีบอ้อยแล้ว 74.9 ล้านตัน โรงงานน้ำตาลทั้งหมด 57 โรงงาน ปิดหีบแล้ว 56 โรงงาน เหลือเพียงโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์คาดว่าจะปิดหีบอ้อยวันที่ 25 มีนาคมนี้ หรือจะปิดหีบอ้อยในอีก 2 วันข้างหน้า ขณะที่ภาพรวมปริมาณผลผลิตอ้อยฤดูกาลนี้ต่ำกว่าฤดูการผลิตปีก่อนหน้า คือ ฤดูการผลิตปี 2561/2562 ที่มีผลผลิตอ้อยรวมทั้งสิ้น 130.97 ล้านตัน ผลผลิตอ้อยฤดูกาลผลิต 2562/2563 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 56 ล้านตัน หรือคิดเป็นปริมาณผลผลิตอ้อยที่ลดลงไปร้อยละ 42-43
ด้านภาพรวมของผลผลิตอ้อยที่ส่งเข้าหีบโรงงานน้ำตาล พบว่ามีปริมาณอ้อยสดเพิ่มขึ้น โดยปีนี้มีอ้อยสดส่งเข้าโรงงานคิดเป็นร้อยละ 50.3 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วนอ้อยสดส่งเข้าหีบโรงงานน้ำตาล เพียงร้อยละ 38-39 ของผลผลิตอ้อยที่ส่งเข้าหีบทั้งหมด เชื่อว่าแนวโน้มอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งช่วยลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามลภาวะในอากาศให้ลดน้อยลงได้อีกทางหนึ่ง สำหรับโรงงานน้ำตาลที่มีอ้อยสดเข้าหีบมากที่สุด คือ โรงงานน้ำตาลราชบุรีมีสัดส่วนอ้อยสดเข้าหีบคิดเป็นร้อยละ 93 ทั้งนี้ เนื่องจากทางโรงงานได้มีการเตรียมตัวมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและมีความร่วมมือเป็นอย่างดีกับชาวไร่อ้อย.-สำนักข่าวไทย