ตลท. ชี้ตลาดหุ้นไทยร่วงตามทิศทางต่างประเทศ

กรุงเทพฯ  23 มี.ค. – ตลท. ชี้ตลาดหุ้นไทยร่วงตามทิศทางต่างประเทศ ย้ำไม่มีนโยบายปิดการซื้อขาย


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ ตลท.ใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์หลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวลดลง 90.19 จุด คิดเป็น 8% จากดัชนีราคาปิดวันทำการก่อนหน้า  จนถึงตลาดปิดทำการตามเวลาปกติ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,024.46 จุด ลดลง 102.78 จุด (-9.12%) มูลค่าการซื้อขาย 59,677.79 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นในช่วงนี้ คือ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา กทม. ประกาศล๊อคดาวน์กรุงเทพฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่มองว่า เป็นการปิดความเสี่ยงที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นและหวังว่าสถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันตลาดโลกที่ ลดลงอีก 10 % หลังสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียไม่สามารถตกลงกันได้ ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวลดลงอีก ขณะที่รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ดี 3 มาตรการที่ออกมาดูแลตลาดทุน โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้

ทั้งนี้  ย้ำว่า การปรับตัวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ ไม่ใช่ตลาดหุ้นเดียวที่มีการปรับตัวลดลง จะเห็นได้ว่า ตลาดในภูมิภาคเอเชียและยุโรป มีบางตลาดปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยระหว่างวันกลุ่มที่ปรับตัวลดลง เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มการขนส่ง กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มปิโตรเคมิคอล เป็นต้น  แต่กลุ่มที่ปรับตัวลดลงน้อยมาก ได้แก่ กลุ่ม ICT กลุ่ม Health Care กลุ่ม Insurance เป็นต้น โดยจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ขึ้นอยู่กับข่าวที่ออกมาในปัจจุบัน ซึ่งภาครัฐได้ให้ยาแรงแล้วในการปิด กทม.เพื่อไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มีการออกมาตรการต่างๆที่สร้างความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ต่างๆจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี


พร้อมย้ำว่า สิ่งสุดท้ายที่ ตลท.จะปิดทำการนั้นมาจากภาคธนาคารพาณิชย์มีการปิดการให้บริการเท่านั้น ถ้ามาจากเหตุผลอื่นนั้น ย้ำว่า เราไม่มีนโยบายปิดตลาด อย่างไรก็ดี ตลท. ได้เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ด้วยการออกมาตรการหลายอย่าง เช่น ออกมาตรการสั่งห้าม’ชอร์ตเซล’ ต่ำกว่าราคากระดาน  การปรับเกณฑ์มาตรการหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว (เซอร์กิต เบรกเกอร์) และการปรับเกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟลอร์ และอีกหลายมาตรการที่กำลังพิจารณาอยู่  พร้อมพยายามให้ข้อมูลต่างๆที่สำคัญ เพื่อให้นักลงทุนมองโอกาสในการลงทุนได้ 

ส่วนเรื่องกองทุนพยุงหุ้น ก็กำลังพิจารณาควบคู่กันไปด้วย แต่อย่างไรก็ดีเห็นว่า มาตรการที่ใช้ในปัจจุบันยังมีประสิทธิภาพ พร้อมมองว่า ตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดอื่นๆ  ซึ่งต้องพิจารณากันต่อไปว่าจะนำมาตรการใดมาใช้เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น อย่างไรก็ดี ช่วงเวลานี้อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะเข้ามาระดมทุนของหลายบริษัท โดยต้องขึ้นอยู่กับความชัดเจนของตลาด และความจำเป็นต้องใช้เงินทุนของบริษัทจดทะเบียนด้วย ส่วนมาตรการด้านภาษีเพื่อช่วยเหลือนักลงทุนนั้นเป็นเรื่องของภาครัฐในการพิจารณาช่วยเหลือต่อไป . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง