ภูมิภาค 6 มี.ค.- ตำรวจ-แพทย์ชันสูตรศพสามีชาวเกาหลีใต้และภรรยาไทยในบ้านพักหลังใหญ่ท่ามะกา-กาญจนบุรี พบเตาถ่านจุดรมควันและเขียนจดหมายลาครอบครัว ส่วนสุโขทัยหญิงวัย 38 ปี รมควันตัวเองดับในรถเก๋ง
ร.ต.อ.พิษณุกร ชัยวัฒน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (6 มี.ค.) พบผู้เสียชีวิตภายในห้องกระจกของบ้านพักหมู่ 10 ต.ท่ามะกา จึงประสานแพทย์โรงพยาบาลมะการักษ์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธเข้าตรวจสอบเป็นบ้านหลังใหญ่ ภายในห้องกระจกมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายและหญิง รวมทั้งเตาถ่านยังมีถ่านไฟลุกไหม้ 2 เตา สภาพศพทั้งสองไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ นอกจากนี้ ยังพบกระดาษที่เขียนข้อความขอโทษและขออโหสิกรรมต่อครอบครัวของทั้งสอง
แม่บ้านที่พบศพให้การเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองเป็นสามีภรรยา ฝ่ายชายเป็นชาวเกาหลีใต้ อายุ 58 ปี มาเปิดคลินิกรักษาโรคแบบแผนดั้งเดิม ส่วนภรรยาเป็นชาวไทย อายุ 41 ปี ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.30 น. จะมาทำความสะอาดบ้านพบว่าประตูบ้านปิดล็อกจากด้านใน จึงตะโกนเรียกไม่มีเสียงตอบ โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย และตัดสินใจไปพ่อแม่ของฝ่ายหญิงให้มาช่วยเปิดประตู ปรากฏว่าเสียชีวิตทั้งคู่ ที่ผ่านมาทั้งสองไม่เคยมีปากเสียงกัน อาจเป็นเพราะระยะหลังคลินิกเริ่มซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งสองคงเกิดความเครียด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติการเดินทางพบว่าทั้งสองคน เพิ่งจะเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา แพทย์จึงให้นำศพส่งผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง รวมทั้งการตรวจหาเชื้อโควิด-19
ส่วน จ.สุโขทัย เกิดเหตุเช่นเดียวกันเวลาประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ศรีสำโรง แพทย์โรงพยาบาลศรีสังวร และกู้ภัยเทพนิมิตร จุดอำเภอศรีสำโรงเข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตภายในรถ ทะเบียน กง 7084 สุโขทัย จอดอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.สามเรือน พบศพหญิง อายุ 38 ปี นอนอยู่เบาะด้านหลัง และขันอะลูมิเนียมใส่ถ่านไม้ คาดว่าใช้จุดรมควันฆ่าตัวตายเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำศพส่งไปชันสูตรหาสาเหตุอีกครั้ง
สามีของผู้เสียชีวิต อายุ 53 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ให้การว่า ภรรยามีอาการคล้ายซึมเศร้า และป่วยหลายโรค เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว. – สำนักข่าวไทย
ขอบคุณภาพจากกู้ภัยเทพนิมิตร จุดอำเภอศรีสำโรง