กระบี่ 5 มี.ค.-ชาวบ้านผวา “ผีน้อย” โผล่เช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดใน กระบี่-ภูเก็ต ล่าสุดคาเฟ่แห่งที่ถูกเช็กอิน ประกาศปิดบริการ 1- 3 วัน เพื่อฆ่าเชื้อทำความสะอาดภายในร้าน
ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย แห่แชร์กรณีหญิงซึ่งเป็นแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หรือผีน้อย หลังกลับถึงไทย ได้เดินทางมาเที่ยวต่อที่ จ.ภูเก็ต โดยไม่ได้กักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน ตามคำแนะนำของ ก.สาธารณสุข โดยล่าสุดวันนี้ หญิงคนดังกล่าว ได้เช็กอิน ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ สร้างความวิตกแก่ประชาชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยว
นายวัตรพล จันทโร อดีตประธานชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะพีพี กล่าวว่า โรงแรมที่หญิงสาวคนดังกล่าวมาถ่ายภาพเช็กอินนั้น อยู่บนเกาะพีพีจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะมาพักที่เกาะพีพี เบื้องต้น ได้ให้พนักงานตรวจเช็คทั้งโรงแรมบริเวณใกล้เคียง ไม่พบคนในรูปมาพัก และการที่ติดสติ๊กเกอร์สีแดงที่เสื้อนั้นคือ one day trip คือเดินทางเช้าเย็นกลับ ไม่ได้พักค้าง ทั้งนี้ตนได้พยามติดต่อผู้หญิงในเฟซบุ๊กคนนี้แต่ยังติดต่อไม่ได้ อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่ ก็ได้มีการสั่งให้พนักงานทำความสะอาดทุกวัน และมีการวางเจลล้างมือตามจุดต่างๆ ของโรงแรม เพื่อให้นักท่องเที่ยว และมีการทำความสะอาด กรณีที่เกิดขึ้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้รัดกุมมากว่านี้ ควรที่จะกักตัวไว้ ไม่ใช่ปล่อยให้มาเที่ยวเช็คอินไปทั่ว ทำให้ประชาชนและนั่งท่องเที่ยวเกิดความไม่สบายใจ
ส่วนที่ภูเก็ต Phuketandamannews ได้โพสต์ภาพจากเพจของหญิงไทยที่เช็คอินตามสถานที่ต่างๆ พร้อมข้อความ ผีน้อยมาถึงเกาะภูเก็ตแล้ว ขอความร่วมมือชาวภูเก็ตสอดส่องกันด้วยย เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวมาจากเมืองแหล่งที่เชื้อระบาดหนักในเกาหลีใต้ และเดินทางใช้ชีวิตปกติปะปนไปกับคนอื่นทั่วเกาะโดยเมื่อไล่เลียงการโพสต์ภาพบนเฟซบุ๊ก
ล่าสุด เจ้าของ ร้าน “มาดูนา โสโครก คาเฟ่” ถ.เยาวราช – สามกอง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต 1 ในจุดที่หญิงสาวคนดังกล่าวเช็กอิน ประกาศหยุดให้บริการเป็นเวลา 1- 3 วัน
นาย อภิเชษฐ์ วงษ์ศรี อายุ 40 ปี เจ้าของร้านมาดูนา โสโครก คาเฟ่ ระบุว่า เพิ่งทราบว่ามีการแชร์ทางโซเชียลเมื่อประมาณ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวจะเป็นแค่ผู้ที่เพิ่งกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะต้องกักตัวเอง ห้ามติดต่อสัมผัสคนภายนอกเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน แต่เพื่อความปลอดภัยจึง จึงได้สั่งปิดร้านหยุดให้บริการทันทีเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว พนักงาน และลูกค้าที่ใช้บริการ โดยได้นำแอลกอฮอล์ และน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ มาเช็ดทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ภายในร้านทั้งหมด เช่น โต๊ะเก้าอี้ แก้วน้ำ จานชาม ช้อน ส้อม พร้อมนำสเปรย์ฉีดพ่นตามอาคาร ต้นไม้ จุดเช็กอินถ่ายภาพต่างๆ เพื่อความมั่นใจ
ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะปิดให้บริการเป็นเวลา 3 วันก่อน และดูท่าทีว่าปลอดภัยหรือไม่ ทั้งพนักงานและลูกค้ามั่นใจมากน้อยเพียงใด หากมั่นใจก็พร้อมเปิดให้บริการต่อ แต่หากยังไม่มั่นใจ ก็พร้อมจะปิดให้บริการต่อเนื่อง ไม่ว่าจะ 5 วัน 7 วัน หรือ 1 เดือน ก็พร้อม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยความสบายใจอย่างแท้จริง ตนเองไม่อยากเป็นคนเห็นแก่เงินด้วยการรีบเปิดให้บริการทั้งที่ยังไม่มีความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย