fbpx

กทม.วางมาตรการป้อง “โควิด-19”

กทม.4 มี.ค.-กทม.ประชุมมาตรการรับโควิด-19 ขยายวง ตั้งจุดตรวจนอกอาคาร รพ. เพิ่มมาตรการหยุด-เลื่อน-เลี่ยง-ปิด พร้อมเปิดหลักสูตรสอนทำหน้ากากผ้า เปิด รพ.สังกัด กทม.รองรับกลุ่มเฝ้าระวัง-ผีน้อย 


พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่2/2563 ว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 โดยมีหน่วยงานด้านการแพทย์สังกัด กทม.เข้าร่วม  พิจารณาแนวทางปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน  กรณีโควิด-19 ขยายวงกว้างขึ้น เพื่อเป็นกรอบให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนเผชิญเหตุโดยใช้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อ 


รองผู้ว่า กทม. กล่าวว่า เรื่องการรักษาดูแลผู้ป่วย โรงพยาบาลสังกัด กทม.ทุกแห่ง กรณีตรวจพบผู้มีอาการไข้มีน้ำมูก ไอจามจัดตั้งจุดตรวจภายนอกอาคารเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปในพื้นที่อาคารโรงพยาบาล ส่วนยาต้านไวรัสโควิด-19 ทุกโรงพยาบาลของ กทม.จัดเตรียมไว้ใช้สำหรับใช้ดูแลผู้มีอาการป่วย คือยาต้านไวรัสเอดส์และไข้หวัดใหญ่ แม้ขณะนี้ยังไม่มีการรับรองทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ แต่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นการใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยเบื้องต้น

นอกจากนี้ที่ประชุมลงมติออกมาตรการ “หยุด-เลื่อน-เลี่ยง-ปิด” คือผู้ที่มีอาการสามารถลาหยุดได้โดยไม่มีการคิดเป็นวันลา, เลื่อนการเดินทางไป ประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือการจัดกิจกรรมงานนิทรรศการที่เป็นการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมาก ,เลี่ยงเดินทางไปที่มีคนหนาแน่นและการปิดสถานที่ต่างๆ อาทิ ตลาด โรงงานสถานประกอบการ ที่อาจพบมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หากคณะกรรมการตรวจสอบพบจะเสนอ ผู้ว่าฯกทม.ให้ใช้อำนาจสั่งปิดทันที


ส่วนการแก้ปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยนั้น  ที่ประชุมเล็งเห็นว่าหน้ากากผ้าสามารถใช้ป้องกันการแพร่ระบาดได้ เบื้องต้น กทม. เปิดโรงเรียนฝึกอาชีพ 8 แห่ง และศูนย์ฝึกอาชีพ 4 แห่ง รวม 12 แห่ง เปิดหลักสูตรสอนการทำหน้ากากผ้าสำหรับใช้เองฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งข้อดีของหน้ากากผ้า คือสามารถนำมาซักแล้วกลับไปใช้ใหม่ได้ โดยพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าเรียนให้เตรียมผ้าสำหรับทำหน้ากากมาคนละประมาณ 1 ฟุต เปิดสอน 10.00-16.00 น.

ขณะที่การเตรียมโรงพยาบาลผู้สูงอายุ บางขุนเทียน เป็นจุดในการรองรับผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังสอบสวนโรคนั้น สำนักการแพทย์ กทม.ยืนยันว่าสามารถรองรับได้ประมาณ 300 คนและกำลังเตรียมพื้นที่โรงพยาบาลอื่นๆไว้รองรับเพิ่มเติม ย้ำว่าไม่ได้เป็นโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่สำหรับผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวัง อาทิ ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมทั้งกรณีกลุ่มแรงงานไทยที่กำลังจะเดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งหากทางรัฐบาลได้ขอความร่วมมือมา กทม. ก็พร้อมเปิดพื้นที่นี้รองรับ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย