กรุงเทพฯ 18 ม.ค.- “เพื่อไทย” เปิดตัว 8 ขุนพลนำ ส.ส.ซักฟอกรัฐบาล ด้าน”คุณหญิงหน่อย” ติวเข้มตี 3 ปมบริหาร “ศก.ล้มเหลว-ไร้ฝีมือ-ทุจริต” ลั่นไม่จบแค่ในสภาฯ
“เพื่อไทย” เปิดตัว 8 ขุนพลนำ ส.ส.ซักฟอกรัฐบาล ด้าน”คุณหญิงหน่อย” ติวเข้มตี 3 ปมบริหาร “ศก.ล้มเหลว-ไร้ฝีมือ-ทุจริต” ลั่นไม่จบแค่ในสภาฯ พบทุจริตต้องดำเนินคดี หวังรักษาประโยชน์ ปชช.จบศึกเตรียมขน ส.ส.ลุยพื้นที่แก้ภัยแล้ง จัดแคมเปญ “ฝ่าวิกฤติกับพรรคเพื่อไทย” เริ่มคิกออฟ 3 มี.ค นี้
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยได้ประชุมเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้กำชับให้ผู้อภิปราย มุ่งเน้น 3 ประเด็นหลักคือ
1. ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล
2. การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ
และ 3. ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งในกรณีที่เป็นประเด็นการทุจริตของรัฐบาลนั้น ต้องไม่ปล่อยให้เรื่องจบแค่ในสภาฯ แต่ต้องติดตามดำเนินคดีอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอให้ ส.ส เตรียมลุยงานหนักในช่วงปิดสมัยประชุมสภา โดยแกนนำพรรคจะเดินทางลงพื้นที่ ร่วมกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง ทั้งนึ้ ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2563 พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าจัดแคมเปญ “ฝ่าวิกฤติกับพรรคเพื่อไทย” ซึ่งจะเป็นการผลักดันการแก้ปัญหาทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังได้ติวเข้ม ส.ส. ที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้อภิปรายหลัก รวม 14 คน โดยกำชับให้เตรียมข้อมูลให้พร้อม ซึ่งพรรคจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเนื้อหาการอภิปรายของ ส.ส. แต่ละท่าน แต่จะสนับสนุน เรื่องอุปกรณ์ทางด้านเทคนิค และการช่วยเผยแพร่เนื้อหาการอภิปรายของ ส.ส.เพื่อให้สังคมรับทราบความบกพร่องในการบริหารงานของรัฐบาล ทั้งนี้ รายชื่อส่วนหนึ่งของ ส.ส. ที่ถูกวางตัวเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ประกอบด้วย แกนนำพรรคและ ส.ส.ที่เป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคซึ่งมีบทบาทโดดเด่นในสภา เช่น
1.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
2.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
3.นายสุทิน คลังแสง
4.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกต
5.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
6.นายชลน่าน ศรีแก้ว
7.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ
8.นางสาวจิราพร สินธุไพร