หวั่นค่าไฟฟ้าเพิ่มจากนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – เวทีแสดงความเห็นแผนหลักพลังงานของประเทศ หวั่นค่าไฟฟ้าแพงจากโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าล้นจากจีดีพีต่ำกว่าเป้าหมาย ด้านปลัดพลังงานเชื่อมั่นค่าไฟฟ้าอาจไม่แพงขึ้น หากนำเข้าแอลเอ็นจีราคาถูกมาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่วนไอพีพีตามแผนพีดีพีฉบับปรุงหดเหลือ 6,900 เมกะวัตต์ 



วันนี้ (18 ก.พ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จัดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บทพลังงานของประเทศระยะยาว 20 ปี (2561-2580) ซึ่งหนึ่งในแผนงาน คือ ปรับปรุงแผนไฟฟ้า (ร่างแผนพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุง) ที่ปรับปรุงใหม่ หลังรัฐบาลกำหนดนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากปี 2563-2567 รวม 1,933 เมกะวัตต์ โดยยังคงปริมาณโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนไว้เช่นเดิมตลอดทั้งแผน 18,696 เมกะวัตต์ ซึ่งการกำหนดโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น เป็นการลดสัดส่วนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดแผน 10,000 เมกะวัตต์ เหลือเพียง 9,290 เมกะวัตต์ (เนื่องจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนที่กำหนดซื้อ 100 เมกะวัตต์/ปี เป็นเวลา 10 ปี ปรากฏว่า ปี 2562 มีการขายเข้าระบบจริงเพียง 3 เมกะวัตต์) ปรับเพิ่มเป้าหมายโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 69 เมกกะวัตต์ ปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน)  ชะลอโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐภาคใต้ ปีละ 60 เมกะวัตต์ จากปี 2564– 2565 ไปเป็นปี 2565–2566 เร่งรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม จากเดิมปี 2577 มาเป็นปี 2565 ขณะที่รถไฟฟ้าหรืออีวีจะเข้ามามีบทบาทการใช้น้ำมันก็จะน้อยลง 


สำหรับแผนพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงรวมกำลังผลิตไฟฟ้าจนถึงสิ้นปี 2580 ยังคงเท่าเดิมที่ 77,211 เมกะวัตต์ โดยจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่เข้าระบบ 56,431 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้จะมีการรับซื้อโรงไฟฟ้าใหม่หรือทดแทนที่จะเป็นโรงไฟฟ้าไอพีพีลดลง จาก 8,300 เมกะวัตต์ เหลือ 6,900 เมกะวัตต์ (เนื่องจากมีการอนุมัติโรงไฟฟ้าภาคตะวันตกหินกองเข้าระบบไปแล้ว 1,400 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินลดลงจาก 1,740 เมกะวัตต์ เหลือ 1,200 เมกะวัตต์ (เนื่องจากโรงไฟฟ้าเอ็นพีเอสเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นก๊าซ) โรงไฟฟ้าความร้อนร่วมเพิ่มขึ้นจาก 13,156 เมกะวัตต์ เป็น 15,096 เมกะวัตต์ (เพิ่มจากเอ็นพีเอสและโรงฟ้าฟินกอง)  (ใส่ภาพกราฟฟิก เหตุผลปรับพีดีพี 2018  ) 


ขณะที่แผนก๊าซฯ นั้น ประเมินความต้องการใช้ปี 2580 อยู่ที่ 5,348 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 0.7 ต่อปี ซึ่งการผลิตก๊าซฯ ในประเทศเพิ่มขึ้นจากแผนเดิม เนื่องจากการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณเสร็จสิ้น ทำให้ความต้องการใช้แอลเอ็นจีลดลงจาก 34 ล้านตัน/ปี เหลือ 26 ล้านตัน/ปี อย่างไรก็ตาม จากแผนโครงสร้างพื้นฐานการนำเข้าแอลเอ็นจีที่อนุมัติไปแล้วและรองรับการนำเข้าใหม่ในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ ไทยจะมีคลังนำเข้ารวม 39.8 ล้านตัน/ปี จึงทำให้รัฐบาลเร่งทำแผนการนำเข้าเพื่อการส่งออกทั้งทางเรือและทางรถบรรทุกและรถไฟ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจำหนายในภูมิภาคนี้ โดยคลังแอลเอ็นจีตามแผนจะมีทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย คลังมาบตาพุด 11.5 ล้านตัน/ปี ,คลังหนองแฟบ 7.5 ล้านตัน/ปี ,คลังร่วมทุน ปตท.-กัลฟ์ ในโครงการมาบตาพุดระยะที่ 3 ปริมาณ 10.8 ล้านตัน/ปี ,คลังในภาคใต้ 5 ล้านตัน/ปี ( ใส่ภาพโครงสร้างพื้นฐานแอลเอ็นจี   )

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีดังกล่าวมีการแสดงความคิดเห็นหลากหลาย เช่น การมองสมมติฐานแผนพลังงานที่คำนวณจากเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ เพราะในช่วง 2 ปีนี้จีดีพีโตต่ำกว่าแผนค่อนข้างมาก การสนับสนุนโรงไฟฟ้าชุมชนทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าแพงขึ้นทั้งที่สำรองไฟฟ้าไทยสูงมากกว่าร้อยละ 30 การสร้างคลังแอลเอ็นจีมาบตาพุดระยะที่ 2 เป็นเรื่องที่จำเป็นหรือไม่ ขณะที่ความต้องการก๊าซฯ ไม่ได้สูงเหมือนในอดีต (ใส่กราฟฟิก ภาพเปรียบเทียบค่าไฟฟ้าขายปลีก )

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แม้นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนจะมีผลทำให้ค่าไฟฟ้าตามแผน 20 ปี เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.69 สตางค์/หน่วย เป็น 3.6672 บาท/หน่วย จากแผนเดิม 3.5903 บาท/หน่วย แต่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศช่วยเศรษฐกิจฐานราก คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนรวมกว่าแสนล้านบาท และช่วยให้เกิดการกระจายลงทุนมากกว่า 200 ชุมชน  อย่างไรก็ตาม จากราคาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีตลาดโลกลดลงเหลือไม่ถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ขณะนี้ทางกระทรวงจึงมีแผนนำเข้ามาผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซอ่าวไทย ซึ่งมีราคาสูงกว่า ดังนั้น จึงอาจทำให้ค่าไฟฟ้าทั้งแผนไม่ปรับขึ้นตามคาด 

ส่วนการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์นั้น จะมีการประกาศรับซื้อเดือนเมษายนนี้และประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ โดยโครงการเร่งด่วน หรือควิกวินจะมี 100 เมกะวัตต์ จะต้องเข้าระบบหรือซีโอดี ภายในปีนี้ และอีก 600 เมกะวัตต์ จะเข้าระบบปีหน้า หนึ่งในเหตุผลที่จะคัดเลือก คือ จะต้องสร้างประโยชน์ต่อชุมชนที่ชัดเจน

ขณะเดียวกันปีนี้โรงไฟฟ้าชุมชนจะนำร่องโดยรัฐวิสาหกิจรวม 4 โครงการ  ประกอบด้วย การร่วมดำเนินการของ กฟผ. 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าจากหญ้าเนเปีย จัดตั้งที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชุมชนที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซชีวมวลจากข้าวโพด ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์  และโครงการของไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ที่ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส กำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม