กรุงเทพฯ 17 ก.พ.- ปคม.ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน เอี่ยวแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ
พลตำรวจตรีวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีอุ้มบุญข้ามชาติ ร่วมกับตัวแทนจากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ , ปปง. , กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. และกรมการกงสุล โดยใช้เวลาหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลความคืบหน้าอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง
พลตำรวจตรีวรวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้พิจารณาหลักฐานแล้ว เห็นว่าเพียงพอจะเสนอออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับแก๊งอุ้มบุญเพิ่มเติมอย่างน้อย 4 คน เป็นชาวไทย 3 คน ทำหน้าที่เป็นนายหน้า และชาวต่างชาติอีก 1 คน ทำหน้าที่เป็นคนพาแม่อุ้มบุญไปทำคลอดที่จีน
ส่วนผลการสอบปากคำแม่อุ้มบุญ จำนวน 21 คน ทำให้พบว่า มีการแบ่งกลุ่มดำเนินการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มนายเจ้าหราน ที่เพิ่งถูกจับกุมไป เกี่ยวข้องกับแม่อุ้มบุญ 5 คน ที่จังหวัดหนองคาย เมื่อปี 2555 และอีก 7 คน ที่พบที่บ้านย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มแม่อุ้มบุญ 8 คน ที่พบในจังหวัดปทุมธานี มีเด็กที่เกิดจากแม่อุ้มบุญ 14 คน ถูกพาไปประเทศจีนแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ และกลุ่มที่ 3 เป็นแม่อุ้มบุญ 1 คน ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา 2 คน ที่ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการสอบสวนยังพบว่า กลุ่มนายหน้าทั้ง 3 กลุ่ม เดิมเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ต่อมามีการแยกตัวออกไปดำเนินการเอง จึงเป็นไปได้ที่จะมีนายทุนคนละคนกัน
ส่วนการขยายผลเตรียมตรวจค้นสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจากกรมสนับสนุนและบริการสุขภาพ ได้นำข้อมูลที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีขบวนการแม่อุ้มบุญ เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาล 9 แห่ง ซึ่งมีการระบุรายชื่อและข้อมูลอย่างชัดเจน เป็นโรงพยาบาล 4 แห่ง และคลินิก 5 แห่ง นอกจากนี้ยังพบข้อมูลแพทย์ที่ดำเนินการรับฝากครรภ์อาจมีหลายคนเนื่องจากเป็นการกระทำคนละขั้นตอน ซึ่งหลังจากนี้หากตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตตาม พรบ.อุ้มบุญ ก็จะมีความผิด
สำหรับหลักฐาน ที่มีการตรวจพบในบ้าน 2 หลัง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร //ที่มีทั้งยาเวชภัณฑ์ แผนปัจจุบันและแผนโบราณ โดยพบมีการนำเข้ายาจากต่างประเทศที่ประเทศไทยไม่อนุญาต เข้าข่ายผิดกฎหมายชัดเจน อีกทั้งยังพบเครื่องมือผสมเทียมที่ใช้ในการผสมตัวอ่อน อยู่ในบ้านย่านลาดพร้าวของผู้ต้องหา ซึ่งต้องรอให้ทาง อย.นำกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายในความผิดข้อหาใดบ้าง ก็จะแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
ส่วนความเป็นอยู่ของแม่อุ้มบุญ และเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยยืนยันเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญมีแค่ 2 คน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้มาแสดงตนเป็นผู้ปกครอง ยืนยันทางกระทรวงฯ ไม่ได้ปิดโอกาสในการรับเด็กไปดูแล
ส่วนแม่อุ้มบุญ สามารถปรับตัวได้ดี มีความเครียดเล็กน้อยจากการถูกสอบปากคำ แต่ก็มีเจ้าหน้าสังคมสงเคราะห์ในการเข้าไปให้คำปรึกษา .-สำนักข่าวไทย