จ่อฝากขังอดีตพลทหารคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้าเกือบ 50 นัด

บุรีรัมย์ 17 ก.พ. – พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เตรียมคุมตัวอดีตพลทหารคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้าเกือบ 50 นัด ฝากขังต่อศาล วันนี้



ความคืบหน้าเหตุนายจักรกฤษ หรือ มาร์ค อดีตพลทหาร อายุ 31 ปี คลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าเกือบ 50 นัด ภายในบ้านเลขที่ 20/3 ชุมชนวัดขุนก้อง เขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเย็นวานนี้ (16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรอบบ้านและพยายามเกลี้ยกล่อมนานกว่า 2 ชั่วโมง นายจักรกฤษ จึงยอมมอบตัว จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก บริเวณบ้านและรอบตัวบ้าน พบปลอกกระสุนปืนเกือบ 50 ปลอก กระจายเกลื่อน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต


เบื้องต้นนายจักรกฤษ ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ได้คลุ้มคลั่ง และไม่ได้ก่อเหตุเลียนแบบมือปืนที่ จ.นครราชสีมา แต่สาเหตุเพราะไม่พอใจที่ถูกน้าต่อว่าเรื่องตัดต้นไม้ข้างบ้าน และนำกิ่งไม้ไปทิ้ง ประกอบกับก่อนก่อเหตุดื่มเหล้าขาวไป 2 ขวด และเสพยาบ้าด้วย เมื่อถูกต่อว่าจึงเกิดอารมณ์โมโห


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และเสพสารเสพติด  

ล่าสุดเช้าวันนี้ (17 ก.พ.) ร.ต.อ.ณภัทร สุทธิธนากุล พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง นำตัวนายจักรกฤษ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรอง ในช่วงบ่าย พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ และปืนลูกซองยาวที่ตรวจยึดได้ในบ้านอีก 1 กระบอก ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของพ่อเลี้ยงที่เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ ซึ่งตำรวจจะเรียกพ่อเลี้ยงมาสอบปากคำว่า ปืนมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่

ด้านน้าสาวของนายจักรกฤษ หรือ มาร์ค เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนบอกให้นายมาร์คไปตัดต้นส้มข้างบ้าน เพราะจะถมดิน ซึ่งหลานก็ไปตัด พอตัดเสร็จก็บอกให้นำกิ่งไม้ไปทิ้งสระร้างใกล้บ้าน แต่หลานบอกจะเอาใส่กระบะหลังรถไปทิ้งข้างนอก ตนบอกว่าให้ทิ้งสระใกล้บ้านนี่แหละ ไม่ต้องขับรถออกไป เพราะเห็นว่าหลานดื่มเหล้ากับเพื่อน เริ่มมีอาการเมาแล้ว กลัวว่าขับรถออกไปจะเกิดอันตราย ทำให้หลานไม่พอใจ พูดขู่ว่า “เดี๋ยวจะเอาปืนมายิงหัวกระจุยเลย” ก็คิดว่าหลานแค่พูดด้วยอาการมึนเมา ไม่คิดว่าจะทำจริง และไม่เคยรู้ว่าหลานมีปืนอยู่ในบ้าน จนสักพักได้ยินเสียงปืนดังมาจากบ้านหลานที่อยู่ใกล้กันหลายนัด เพื่อนบ้านต่างพากันหลบเข้าไปในบ้าน และแจ้งตำรวจตรวจสอบ ปกติหลานมีนิสัยเป็นคนอารมณ์ร้อนและโมโหร้าย หากไม่พอใจจะแสดงอาการเตะข้าวของระบายอารมณ์เท่านั้น แต่ไม่เคยถึงขั้นยิงปืนขู่แบบนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง