ผบ.ทบ.น้ำตาซึมแถลงเหตุกราดยิง

กองบัญชาการกองทัพบก 11 ก.พ.-ผู้บัญชาการทหารบก แถลงกราดยิงโคราช  น้ำตาซึม พร้อมสั่งสอบสวนหาข้อมูลเชื่อมโยงคดี ลั่น เยียวยาประชาชน กำลังพล และครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด เข้ารับราชการ ยืนยันจะพัฒนากองทัพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมสั่งการแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในกองทัพ ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนโดยตรง ขีดเส้นตายภายในเดือนกุมภาพันธ์ ให้ข้าราชการเกษียณอายุออกจากบ้านพักราชการ ขอให้จับตา กุมภาพันธ์-เมษายนนี้ มีทหารระดับนายพล ถึงพันเอก ตกงานแน่  วอนอย่าด่าทหาร ให้ด่าตน เพราะกองทัพบกเป็นองค์กรแห่งความศักดิ์สิทธิ์


ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ บัญชาการทหารบก แถลงกรณีจ่าสิบเอก กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และเหล่าทหาร ตำรวจผู้กล้าทุก นายที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้ก่อเหตุตัดสินใจยิง โดยใช้ปืนส่วนตัว 5 ชนิด ซึ่งซื้อถูกต้องและมีการกู้เงินมาซื้อ

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุไปสังหารคู่กรณีและเครือญาติ เวลา 15.00น. ขับรถส่วนตัวไปที่ค่ายสุรนารี และใช้อาวุธปืนที่พกไป ใช้ปืนขู่ยามรักษาการณ์ให้ส่งมอบปืน เอชเค 33 ซึ่งเป็นปืนรุ่นเก่าให้หน่วยช่วยรบ ใช้เป็นอาวุธประจำกาย และกระสุนอีก 40 นัด ที่บรรจุอยู่ในแมกกาซีน ได้มอบให้คนร้ายไปเพราะถูกขู่ จากนั้นผู้ก่อเหตุใช้ปืน เอชเค 33 กราดยิงที่คลังเก็บอาวุธ และยิงพลทหารที่เฝ้าคลังอาวุธอยู่เสียชีวิต  ปล้นปืนเอชเค 33 ไปอีก 1 กระบอก ปืนกล เอ็ม 60  และกราดยิงที่ป้อมรักษาการณ์ทำให้พลทหารที่รักษาการณ์ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เมื่อบาดเจ็บรีบรายงานทันทีให้ผู้บังคับบัญชาทราบ


พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า คนร้ายได้ขับรถไปต่อที่กองบังคับการกองพัน  ทหารภายในเริ่มทราบแล้วเพราะได้ยิมเสียงปืน และปล้นรถจิ๊ปดัดแปลง หรือรถเอ็ม 51 คนร้ายได้ขับรถชนคลังเก็บกระสุน ซึ่งทหารในหน่วยได้พยายามสะกัดกั้น แต่เนื่องจากไม่มีรถและอาวุธ มีเพียงอาวุธประจำกายเท่านั้น จึงไม่สามารถสกัดกั้นได้ คนร้ายขับรถพ้นนอกค่ายและก่อเหตุกราดยิงประชาชนตามรายทาง 

ผบ.ทบ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้คนร้ายก่อเหตุ เกิดจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ มีการซื้อขายที่ดิน ผิดสัญญาเรื่องผลตอบแทนกัน จึงทำให้เกิดแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยวินาทีที่ผู้ก่อเหตุลั่นไกนั้น เป็นอาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว

ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยกองทัพบกได้มีกฎระเบียบมานานแล้ว แต่ยอมรับว่าอาจจะมีหน่วยที่หละหลวมก็ต้องลงโทษกัน ผู้ก่อเหตุปฎิบัติหน้าที่อยู่ในหน่วยนั้น จึงรู้ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร สำหรับหน่วยทหารมี 2 รูปแบบ คือหน่วยปฎิบัติหน้าที่ปกติในที่ตั้ง และปฎิบัติหน้าที่ในสนาม จึงมีการเตรียมความพร้อมที่ต่างกัน มาตรการหลักของกองทัพมีมานานแล้วแต่ต้องกำชับให้ปฎิบัติและทำให้ดียิ่งขึ้น 


พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การบริหารสถานการณ์ในความเสี่ยงนั้น ตนได้รายงานให้นายกรัฐมนตรี ทราบในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีจึงมอบให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่พร้อมตน และได้ถึงที่หมายในเวลา 22.00 น. เพื่อไปประเมินสถานการณ์และออกคำสั่งโดยได้ดำเนินการ 3 ข้อ คือการใช้กฎหมายปกติ โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้บังคับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและสามารถมีอิสระมีอำนาจในการออกคำสั่งการตัดสินใจเหตุการณ์ และนายกรัฐมนตรีย้ำว่าการดำเนินการทุกอย่างขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนสูงสุด 

ผบ.ทบ. กล่าวว่า สำหรับทหารนั้นตั้งรับรอคำสั่งอยู่เมื่อ ผบ.ตร ที่เป็นผู้บังคับบัญชาร้องขอมา แต่เมื่อตำรวจสามารถคุมสถานการณ์อยู่ และไม่ได้ประสานขอร้องให้ทหารเข้าช่วยทุกคนจึงอยู่ในที่ตั้งรอรับคำสั่งแต่งตั้งให้ดำเนินการ จากนั้นทหารออกมาตีวงด้านนอกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยต่างๆที่มีการร้องขอมา เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จึงต้องการเลือดสำรองกรณีไม่เพียงพอ จึงประสานขอรับบริจาคเลือด เป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน 

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า จากนั้นประมาณ เกือบ 6 โมงเช้า ตนออกนอกพื้นที่เพื่อไปสรุปสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีฟัง และได้ประสานงานโดยตรงกับชุดควบคุมสถานการณ์ตลอดเวลา ตนขอชี้แจงว่า เพื่อความเข้าใจและไม่ให้เกิดความแตกแยกว่า ตนและผบ.ตร ทำงานด้วยกันมาอย่างยาวนาน ผ่านกันมาหลายเหตุการณ์ ทำงานให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดังนั้นเพื่อการรักษาชีวิตของประชาชนที่อยู่ภายใน ในการปฎิบัติการครั้งนี้ ต้องชื่นชมตำรวจจากทุกหน่วยงานที่เข้าไปปฎิบัติในพื้นที่ แม้ว่าจะมีตำรวจหลายนายที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการปฎิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับทหารรักษาการณ์ 

ผบ.ทบ. กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.50 น.ได้รับแจ้งว่าจบภารกิจ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไปถึง และสำหรับความช่วยเหลือได้เตรียมเรื่องการเยียวยาผู้เสียชีวิต และเปิดค่าย   สุรนารีรองรับผู้บาดเจ็บและญาติที่ได้รับผลกระทบ ตนในฐานะผบ.ทบ พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้สภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นดีขึ้น ส่วนประชาชนที่เสียชีวิตกองทัพบกพร้อมที่จะรับครอบครัวเข้ารับราชการหากมีความประสงค์ รวมทั้งผู้ที่บาดเจ็บด้วย กองทัพบกจะเปิดรับโดยไม่มีข้อแม้

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ส่วนผู้ก่อเหตุและคู่กรณี ที่เป็นผู้บังคับบัญชาพร้อมเครือญาติ จะเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชา และจะเปิดช่องทางรับเรื่องราวร้องเรียน โดยตนจะเก็บเป็นความลับ ซึ่งส่วนตัวไม่มีเฟซบุ๊ค แต่จะหาช่องทางที่ให้โอกาสผู้ใต้บังคับบัญชาส่งเรื่องถึงตนได้โดยตรง โดยสั่งการไปเมื่อวานนี้และยืนยันว่าจะดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาที่มีความผิด

“ผมในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่ง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่และประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ขอว่าอย่าต่อว่าทหารอย่าว่ากองทัพบก ซึ่งเป็นองค์กรอันศักดิ์สิทธิ์  หากจะว่าขอให้ว่าผมในฐานะผบ.ทบ. เพราะไม่อย่างนั้นทหารที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน ปฎิบัติหน้าที่ช่วยภัยแล้ง น้ำท่วม ไฟป่า ดูแลทุกข์สุขประชาชนจะเสียกำลังใจ หากจะต่อว่าขอให้มาตำหนิผมเพียงคนเดียว  ผมจะพัฒนาปรับปรุงกองทัพบกให้มีประสิทธิภาพและมาตรฐานต่อไป แม้จะเหลือเวลาทำงานอีก 7-8 เดือนก็ตาม แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจนถึงวันที่ส่งมอบธงให้ผบ.ทบ. คนต่อไป  วันนี้ใครที่ไม่ปฎิบัติตาม ผมจะย้ายอย่างไม่มีข้อแม้ ผมจะดำเนินการกับทุกคนที่ปฎิบัติไม่ถูกต้อง วันนี้กองทัพบกต้องปฎิบัติตนอย่างไร และตั้งแต่วันที่ผมแถลงข่าวครั้งก่อน ก็ไม่เคยยุ่งเรื่องการเมืองเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องภายในองค์กร” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สื่อข่าวสายทหารอาวุโสท่านหนึ่ง ได้กล่าวให้กำลังใจผบ.ทบ.ระหว่างการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียด โดยกล่าวว่า ผบ.ทบ.อย่าเสียใจไปเลย เพราะทหารที่ดียังมีอีกเยอะ

จากนั้นเข้าสู่ช่วงคำถาม ผู้สื่อข่าวถามว่า ความไม่เป็นธรรมในกองทัพจะรับผิดชอบอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เป็นเรื่องระหว่างผู้ก่อเหตุกับคู่กรณี เป็นความบาดหมางระหว่างกัน ในส่วนความรับผิดชอบกองทัพก็รับผิดชอบตามมาตรฐาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ ถึงแม้จะเป็นเพียง พลทหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานเพลิงศพให้พลทหาร โดยกองทัพบกจะดูแลครอบครัวพลทหารที่เสียชีวิตและพลทหารอย่างดีที่สุด 

ส่วนการรับผิดชอบต่อประชาชนที่เสียชีวิต กองทัพบกยินดีที่จะรับทายาทเข้ารับราชการตามคุณวุฒิโดยไม่มีข้อแม้ หากทายาทยังเรียนหนังสือไม่จบ กองทัพจะรับผิดชอบดูแลด้านการศึกษา และการดูแลจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง แม้ตนจะเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ตาม หรือบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหากประสงค์รับราชการกองทัพบกไม่มีเงื่อนไขทั้งสิ้น พร้อมรับทุกคนเข้ามาเป็นข้าราชการทหาร พร้อมเปิดเผยว่ามีชาวโคราชหลายคน ไม่ทราบได้เบอร์โทรศัพท์ตนมาจากไหนได้ส่งข้อความให้กำลังใจมาที่ตนด้วย

เมื่อถามถึงบทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะดูแลกำลังพลอย่างไรให้ได้รับความเป็นธรรม พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า คนเราเติบโตมาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานต่างกัน แต่นายทหารได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนเดียวกันได้รับการปลูกฝังมาแบบเดียวกัน ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นเวลา 5 ปี การดูแลผู้ใต้บังคับบัญชานั้นเหมือนกันหมด แต่เมื่อจบไปแล้วจิตใจอยู่ที่คุณธรรมและศีลธรรมของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่ตนเติบโตมาได้ไม่ใช่เพราะผู้บังคับบัญชา แต่โตมาได้เพราะผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นความร่วมมือให้กับตน ช่วยกันทำงานทั้งในที่ตั้งปกติหรือในสนาม ตนดูแลพวกเขาเหล่านั้นดีทุกภารกิจ 

ขณะเดียวกันหน่วยข้างเคียงตนก็เห็นความล้มเหลว ซึ่งตนก็พยายามกลั่นกรองเลือกสรรคนดี แต่กองทัพบกมีคนจำนวนมากมายหลายแสน การสรรหาคนมาเป็นผู้บังคับบัญชาคนนั้น ตนก็ได้เน้นย้ำ และพูดในที่ประชุมว่า ไม่ว่าใครจะรับรองมาให้มาเป็นผู้บังคับบัญชา หากไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ต้องมาเป็น  ไม่ว่าจะเป็นหน่วยไหนก็ตาม ทั้งหน่วยกำลังรบ หน่วยสนับสนุนการรบ ต่าง ๆ หากจะมาเป็นผู้บังคับบัญชาแล้วไม่มีมาตรฐานก็ไม่ต้องมา การแถลงข่าววันนี้ลูกสาวเตือนมาว่าขอให้พูดจาให้ดี อย่าใช้อารมณ์ 

เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาเรื่องธุรกิจการจัดสรรบ้านและที่ดินในกองทัพอย่างไร ให้มีความเป็นธรรม ผบ.ทบ. กล่าวว่า ในห้วงเวลาและสถานการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงไป เคยมีโครงการบ้านสวัสดิการ การกู้เงิน ทั้งการวิ่งเต้นกับพ่อค้านายหน้าต่าง ๆ ตนไม่อยากบอกรายละเอียด แต่เอาเป็นว่า เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเดือนเมษายนนี้ บอกได้เลยว่าตั้งแต่นายพลยันพันเอก ไม่มีงานทำแน่นอน เพราะตนทราบมาว่ามีหลายเรื่องที่มันไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการเอาเปรียบหลวงและเพื่อนร่วมงาน ให้มั่นใจว่าหลังจากนี้ไม่สัมฤทธิ์ผลเห็นดีแน่นอน 

“ในเร็ว ๆ นี้จะมีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในกองทัพบก เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ได้เซ็นยกเลิกสวัสดิการของกองทัพบก เพื่อไม่เปิดโอกาสให้ซื้ออาวุธได้โดยง่าย ผู้ก่อเหตุมีปืนถึง 5 กระบอก ซึ่งซื้อมาจากสวัสดิการที่ค่ายทหารต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ทหารไม่ควรมีปืนส่วนตัวขนาดนั้นเพราะมีปืนหลวง มีบ้านให้ มีสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเพียงพอแล้ว

ผมขีดเส้นตายกุมภาพันธ์นี้ ทหารที่หากเกษียณอายุราชการแล้วต้องออกจากบ้านสวัสดิการ เพื่อหมุนเวียนให้ทหารใหม่เก็บเงินได้  ยอมรับว่าการอยู่แบบไม่พอเพียงการฟุ้งเฟ้อ เกินความจำเป็น ผมไม่อยากตำหนิผู้ก่อเหตุ แต่การมีปืน 5 กระบอกไม่ใช่วิสัย ผมได้สั่งการเรื่องการเอารัดเอาเปรียบกำลังพลมานานแล้ว ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก เชื่อว่าผู้บัญชาการทุกหน่วยจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

เมื่อถามว่าทำไมก่อนหน้านี้กองทัพถึงจัดการปัญหาความเอารัดเอาเปรียบในหน่วยทหารไม่ได้ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วยมีการดำเนินการที่ต่างกันออกไป แต่หน่วยหลักคือกองทัพบกก็ออกมาตรการหลัก เมื่อเจอปัญหาก็ต้องแก้สถานการณ์ไปตามหน้างาน และทันทีที่ตนรับตำแหน่งผบ.ทบ.ตนก็ได้เริ่มแก้ไข แต่ยอมรับว่าการแก้ปัญหามันไม่ได้เห็นผลร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตนมุ่งมั่นพยายามทำให้ดีที่สุด จึงขอว่าอย่าเอาไปเป็นประเด็นทางการเมือง

เมื่อถามว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุง ผบ.ทบ กล่าวว่า ตนในฐานะ ผบ.ทบ ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และทราบถึงปัญหา โดยกองทัพพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง

เมื่อถามว่าครอบครัวผู้ก่อเหตุ ผบ.ทบ.จะดูแลอย่างไร  กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปคุยกับมารดาผู้ก่อเหตุ มายังพื้นที่เพื่อที่จะติดต่อสื่อสารเกลี้ยกล่อม และได้พยายามอย่างเต็มที่ แต่ในที่สุดไม่สามารถติดต่อผู้ก่อเหตุได้ เมื่อถามว่าเหตุใดถึงก่อเหตุรุนแรงขึ้น  ผบ.ทบ.กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุแทบไม่ได้ติดต่ออะไร เพราะเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อ ต่อรอง แต่ไม่เป็นผล 

เมื่อถามว่าผบ.ทบ จะชี้แจง เรื่องการที่ประชาชนขอให้รับผิดชอบด้วยการออกจากตำแหน่งอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่ในการทหาร  ตนก็อยากถามเหมือนกันว่า มันสมควรที่จะใช้คำถามนี้กับตนหรือไม่ ตนมีความรับผิดชอบเพียงพอ ต่อภารกิจที่สั่งในทุกวิกฤตที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถรับผิดชอบที่เกิดจากการกระทำส่วนตัว ในการฝ่าระเบียบวินัย ก่ออาชญากรรม ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองได้ แต่จะรับผิดชอบหากภารกิจที่ตนสั่งนั้นเกิดความผิดพลาดเพราะนี่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่ภารกิจทางทหาร

เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องให้ผบ.ทบ รับผิดชอบด้วยการลาออกนั้นมองอย่างไร ผบ.ทบ. กล่าวว่า หากเราอยู่บนพื้นฐานของความจริงและหลักการว่ามันคืออะไรแล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นคืออะไร เราควรจะรับผิดชอบอย่างไรต่อผลที่มันเกิดขึ้น คนที่ถามแบบนี้ต้องดูข้อเท็จจริงด้วยอย่ามุ่งแต่ให้ตนตอบในสิ่งที่ตนตอบไปแล้วจะรู้สึกพึงพอใจหรือชนะ เพราะได้บอกแล้วว่าตนจะไม่ยอมแพ้

เมื่อถามว่าการปฎิบัติการทำไมใช้เวลาที่ยาวนานเกิน ผบ.ทบ. กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุใช้พื้นที่ในห้าง terminal 21 และมีประชาชนจำนวนมากอยู่ในนั้น จึงต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วย มาให้คำแนะนำ และศึกษาพิมพ์เขียวห้าง ไปห้องวงจรปิดซึ่งถูกทำลายไปหลายส่วนแล้ว บวกกับต้องรวบรวมข้อมูลของประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ ประกอบกับมีการรายงานข่าว ผู้ก่อเหตุก็ติดตามสถานการณ์จากโซเชียลทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องไล่เคลียร์พื้นที่แต่ละชั้นให้ทั่วตัวตึก มันไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างต้องใช้เวลาเพราะไม่อยากให้เกิดความสูญเสียกับประชาชนอีก เพราะสูญเสียมามากแล้ว จนในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถจับจุดที่คนร้ายอยู่ได้ถึงเริ่มปฎิบัติการณ์

เมื่อถามว่าติดขัดคำสั่งใดหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผบ.ตร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผบ.เหตุการณ์ จึงมีอำนาจหน้าที่ทุกอย่าง ผู้ก่อเหตุอาจจะมีการฟังวิทยุตำรวจหรือไม่ ในส่วนนี้ต้องถามรายละเอียดทางตำรวจ

เมื่อถามว่าจะเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บคลังอาวุธใหม่หรือไม่ ผบ.ทบ กล่าวว่า แต่ละหน่วยนอกจากมีคนดูแลก็มีสุนัขดูแลอยู่ด้วย แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว รับปากจะทำให้ดีขึ้น ส่วนการลอกเลียนแบบนั้น ในต่างประเทศก็มีความกังวลมาก แต่ยืนยันว่ามาตรการเดิมเรามีการดูแลอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่จะเพิ่มมาตรการให้มากกว่านี้ ขอเวลาในการปรับปรุงต่อไป

เมื่อถามว่าจะมีการตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วอย่างไรในการตั้งรับต่ออาวุธหนักเพราะกระสุนที่ผู้ก่อเหตุปล้นไปก็สามารถเจาะเกราะป้องกันของตำรวจได้ ผบ.ทบ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียน และอาวุธหรือกระสุนเหล่านี้ก็ยังคงต้องมีเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศ

ผบ.ทบ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ตนไม่ได้มีความสบายใจเลย และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับเครื่องแบบที่ตนใส่ลงพื้นที่ แม้จะเป็นเวลา 3 ทุ่มแล้วก็ตาม เพราะตนถือว่าเป็นการลงพื้นที่ทำงาน ตนใส่อะไรตนก็ถูกว่า ดังนั้นหากใครรู้จักตนจะทราบดีว่าเป็นคนอย่างไร และโดนอะไรมาบ้าง แต่ขณะนี้ไม่ว่าจะใส่ชุดใดก็ถูกว่า ตนมีภารกิจบางอย่างต้องทำ แต่เนื่องจากความเป็นผู้นำตนจะอยู่และไปกับลูกน้องเสมอ 

“ผมขอถามสื่อบ้างว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความแตกแยก เพราะกองทัพบกสู้ไม่ไหว ทหารทำแฮชแท็กไม่เก่ง ไม่รู้ต้องตั้งอะไรให้คนไปติดตาม โฆษณาชวนเชื่อไม่เป็น ก็อาจเป็นจุดอ่อนของกองทัพ ซึ่งต่อไปจะตั้งหน่วยรับมือกับโซเชียล แต่เอาเป็นว่าก็จะไม่ท้อถอย เหตุการณ์ครั้งนี้เสียใจแต่ก็จะทำให้เข้มแข็งสู้ต่อไป แก้ไขในสิ่งผิดจากนี้ต่อไปในเวลาที่เหลืออยู่”พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว 

ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาความเป็นธรรมให้กับกำลังพลผู้ใต้บังคับบัญชา ผบ.ทบ กล่าวว่า อย่างที่บอกไปว่าจะเปิดช่องทางให้ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาร้องเรียนโดยตรงต่อตนเอง  ซึ่งอาจจะไม่ใช้ทหารทำ และจะพัฒนาการทำงานให้มีคุณภาพต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง โดยระหว่างแถลงข่าวชี้แจง ผู้บัญชาการทหารบก ได้พูดด้วยเสียงสั่นเครือและพักเช็ดน้ำตาเป็นระยะ โดยในบางจังหวะถึงขั้นขอพักเบรกตั้งสติขอน้ำและกาแฟกับเจ้าหน้าที่ ก่อนกล่าวชี้แจงรายละเอียดต่อไป โดยผู้สื่อข่าวเห็นว่า ผบ.ทบ.ได้หันหลังและนำผ้าเช็ดหน้าสีดำของตนเองมาซับน้ำตา และกลับมาแถลงข่าวอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี