นครพนม 7 ก.พ.-สุดเศร้า แม่ทำใจไม่ได้ลูกชายถูกลูกหลงโดนแทงเสียชีวิต คาดทำร้ายผิดตัว เพราะทั้งสองกลุ่มไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
เหตุกลุ่มวัยรุ่นยกพวกชกต่อยกัน หลังเที่ยวงานนมัสการองค์พระธาตุพนม เมื่อกลางดึกวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียชีวิต คือ นายธนกิต เชื้อดวงผุย อายุ 20 ปี ชาวบ้านนาทุ่งมั่ง ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ รวมถึงจุดที่ผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้นำอาวุธมีดพกไปโยนทิ้งลงลำน้ำก่ำ บริเวณสะพานลำน้ำก่ำ ถนนธาตุพนม – มุกดาหาร นอกจากนี้ยังได้ขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มเยาวชน ที่ร่วมก่อเหตุอีก 3 ราย อายุ ไม่เกิน 19 ปี ควบคุมตัวมาสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักผู้เสียชีวิต หมู่ 9 บ้านดอนข้าวหลาม ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายแมทธิว อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งถูกแทงด้านหลังทะลุปอด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม พบนายภราดร อายุ 63 ปี และนางบี อายุ 35 ปี บิดาและมารดาของผู้เสียชีวิต โดยนายภราดรเปิดเผยว่าน้องธิวเป็นลูกคนเดียว ไม่เคยเกเร เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ เป็นความหวังเดียวของครอบครัว
ก่อนเกิดเหตุมีงานนมัสการพระธาตุพนม ลูกชายพร้อมเพื่อนชักชวนกันไปทำความสะอาดรอบองค์พระธาตุพนม เพราะกลุ่มลูกชายรู้จักกับพระในวัดเป็นอย่างดี จึงมีการขอแรงไปช่วยงาน วันเกิดเหตุหลังเสร็จจากการทำความสะอาดปัดกวาดลานกว้างเรียบร้อยก็ชวนกันไปดูคอนเสิร์ตที่อยู่ด้านหลังวัดพระธาตุพนมฯ จากนั้นก็ไปนั่งกินข้าวและกำลังเดินทางกลับไปนอนพักผ่อนที่กุฏิพระ แต่มาเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุระหว่างทาง สาเหตุน่าจะทำร้ายผิดตัว เพราะทั้งสองกลุ่มไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มาทราบภายหลังว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นเจ้าถิ่นเมื่อสองวันก่อน และตามหาตัวคู่กรณีจนมาเจอกลุ่มของลูกชาย จึงคิดว่าเป็นพวกที่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งอยากจะให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพ เพราะจะฌาปนกิจในวันอาทิตย์นี้ และตนทราบต่อมาว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว
ด้านนางบีผู้เป็นแม่เล่าทั้งน้ำตาว่า หากเป็นไปได้ขอไปนอนในโลงแทนลูก ไม่คิดเหตุการณ์เลวร้ายจะมาเกิดกับครอบครัว สิ่งของเครื่องใช้ของลูกจะนำไปบริจาค เพราะเก็บเอาไว้เห็นยามไหนก็ทำใจไม่ได้.-สำนักข่าวไทย