กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – ทอท.ตั้งจุดคัดกรองไวรัสโคโรนา 3 ชั้น ยึดมาตรฐานสากลสนามบินปลอดเชื้อ จับมือ สธ.ตรวจเข้มผู้โดยสารทุกคนไม่มียกเว้น
จากกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการและความพร้อมของเครื่องมือด้านสาธารณสุขในการป้องกันไวรัสโคโรนาบริเวณสะพานเทียบเครื่องบินของสนามบิน ทอท.นั้น นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงและผู้โดยสารอย่างเคร่งครัดเทียบเท่ามาตรฐานสากลที่ดำเนินการในสนามบินนานาชาติอื่นทั่วโลก หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้น ขอให้ประชาชนทุกคนวางใจและเชื่อมั่นในกระบวนการปฏิบัติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างรัดกุม
สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น ทอท.ให้ความสำคัญกับการป้องกันไวรัสโคโรนาอย่างเท่าเทียมกัน หากไม่มีการประกาศแหล่งสุ่มเสี่ยงมากอย่างเป็นทางการ ผู้ให้บริการสนามบินจะเลือกปฏิบัติเฉพาะบางสายการบินหรือบางสะพานเทียบเครื่องบินบางจุดไม่ได้ เพราะถือว่าขัดต่อหลักการที่ต้องปฏิบัติต่อสายการบินที่เท่าเทียมกัน ดังนั้น บางครั้งจึงต้องวิ่งย้ายอุปกรณ์ไปตามประตูเทียบเครื่องบินที่มีเที่ยวบินสุ่มเสี่ยงมากเข้ามา
นายนิตินัย กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร หลังจากเที่ยวบินมาถึงมีขั้นตอนดังนี้ 1.ตรวจหน้าประตูเทียบเครื่องบินเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงมาก 2.กำหนดตรวจสกัดที่จุดตัด concourse D E F ซึ่งเที่ยวบินที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะถูกจัดจราจรทางอากาศให้มาลงที่โซนนี้ทั้งหมด 3.ตรวจหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สำหรับทุกเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารทั้งหมดแต่ละวัน ดังนั้น จะเห็นว่ากลุ่มผู้โดยสารที่เสี่ยงต่อการมีเชื้อไวรัสโคโรนาที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะถูกตรวจคัดกรองถึง 3 ชั้น ขณะที่ผู้โดยสารมาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงปกติจะถูกตรวจ 2 ชั้น และกลุ่มผู้โดยสารทั่วไปจะถูกตรวจคัดกรอง 1 ครั้ง ทั้งนี้ ทอท.และสธ.ร่วมมือทำงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทย
นายนิตินัย กล่าวอีกว่า สำหรับบางเที่ยวบินผู้โดยสารพบว่าไม่มีการติดตั้งกล้องเป็นกรณีพิเศษที่หน้าประตูเทียบเครื่องบิน (Gate) อาทิ เที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ที่ Concourse E ซึ่งไม่ได้มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงมากก็ยังจะถูกจุดตรวจสกัดคัดกรองอยู่ดี บริเวณจุดตัด Concourse D E F จากนั้นจะถูกตรวจคัดกรองอีกครั้งเมื่อผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง (ตม.).-สำนักข่าวไทย