ป.ป.ส.ยันของกลางยาเสพติดไม่มีรั่วไหล

ป.ป.ส.21 ม.ค.-ป.ป.ส.ขอให้ประชาชนมั่นใจของกลางยาเสพติดไม่มีการรั่วไหล มีวิธีการดำเนินการที่รัดกุม และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน


จากการที่แต่ละปีมีการจับยึดยาเสพติดของกลางโดยเฉพาะยาบ้า ไอซ์และกัญชาได้จำนวนมาก และมีประชาชนส่วนหนึ่งแสดงความคิดเห็น ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ถึงยาเสพติดของกลางที่เจ้าหน้าที่จับยึดได้ว่าถูกดำเนินการไปอย่างไร และบางส่วนถึงขั้นมีข้อสงสัยว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวถูกนำออกมาเวียนทำการจับยึดซ้ำหรือไม่ ถูกลักลอบนำออกมาจำหน่ายหรือไม่ รวมถึงที่ทำลายไปนั้นเป็นยาเสพติดของจริงหรือไม่


นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่าในแต่ละปีจะมีการจับยึดยาเสพติดของกลางได้รวมจำนวนมาก ซึ่งประชาชนจะได้รับข้อมูลข่าวสารการจับทุกวัน ส่วนปริมาณหรือจำนวนยาเสพติดจะมากหรือน้อยขึ้นกับแต่ละคดี แต่การดำเนินการกับยาเสพติดของกลางหลังการจับโดยเฉพาะขั้นตอนการทำลายยาเสพติดของกลางนั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันและในทางปฏิบัติก็เกิดขึ้นปีละ 2-3 เท่านั้น เพราะมีกระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงเป็นเหตุให้ประชาชนไม่ได้รับรู้ข่าวสาร  แต่อย่างไร ก็ตามทุกครั้งที่มีการทำลายยาเสพติดของกลางจะมีการสร้างการรับรู้ให้ทราบในวงกว้าง


เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่อไปว่า กระบวนการดำเนินการต่อยาเสพติดของกลางดังกล่าวมีความเข้มงวดรัดกุม โดยแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้

1) ขั้นจับยึด เจ้าหน้าที่ผู้จับต้องทดสอบเบื้องต้นว่าวัตถุที่ยึดได้นั้นเป็นยาเสพติดหรือไม่ นับจำนวนและ/หรือชั่งน้ำหนัก จัดทำบันทึกจับ แจ้งข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

2) ขั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนรับผู้ต้องหาและยาเสพติดของกลาง ทำการตรวจนับและหรือชั่งน้ำหนักยาเสพติดของกลาง ต่อหน้าที่เจ้าหน้าที่ผู้จับ บรรจุยาเสพติดของกลางลงในภาชนะปิดผนึก พร้อมให้มีการลงลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ผู้จับ พนักงานสอบสวน และผู้ต้องหา ลงเลขคดี จากนั้นนำส่งสถานตรวจพิสูจน์ 

3) ขั้นตรวจพิสูจน์ เจ้าหน้าที่สถานตรวจพิสูจน์รับยาเสพติดของกลาง นับและ/หรือชั่งน้ำหนัก ทำการสุ่มตามหลักวิชาการที่กำหนดไว้เพื่อตรวจพิสูจน์เบื้องต้น และทำการตรวจพิสูจน์โดยละเอียดตามขั้นตอน เพื่อออกรายงานผลการตรวจพิสูจน์ จากนั้นส่งไปเก็บรักษายัง ‘ห้องมั่นคง’ 

4) ขั้นการเก็บรักษา ยาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วจะถูกส่งไปเก็บรักษายัง ‘ห้องมั่นคง’ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตรวจรับและทำบัญชีเก็บไว้เป็นหลักฐานรอการทำลาย 

5) ขั้นการทำลาย การทำลายยาเสพติดของกลางจะมีขึ้นอย่างน้อยปีละครั้ง โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเผาทำลายจนหมดสิ้นซึ่งก่อนการทำลายก็จะมีการสุ่มตรวจยืนยันอีกครั้ง และมีบุคลากรที่เป็นตัวแทนจากหลายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นสักขีพยานการทำลาย

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่ากระบวนการที่กล่าวทั้งหมดในแต่ละขั้นตอน จะดำเนินการโดยบุคลากรที่เป็นคนละส่วน มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 1 คน ประการสำคัญคือมีการตรวจสอบซึ่งกันและกันทุกขั้นตอน มีการจัดทำบันทึกและการถ่ายภาพทุกขั้นตอน หากเกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ว่ายาเสพติดของกลางที่เข้าสู่กระบวนการดังกล่าว จะมีการรั่วไหล ถูกนำออกไปจับยึดซ้ำ นำออกไปจำหน่ายหรือเป็นยาเสพติดปลอม จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องรัดกุมและขอให้ช่วยเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละทุ่มเทเสี่ยงอันตรายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วย 

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเพิ่มเติมว่าในปี 2562 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 ได้มีการเผาทำลายยาเสพติด ซึ่งกฎหมายอนุญาตให้เผาทำลายได้ซึ่งเป็นคดีตั้งแต่ก่อนปี 2560-2561 แยกเป็น ยาบ้า 137.4 ล้านเม็ด ไอซ์ 3.4 ตัน เฮโรอีน 143 กก.ฝิ่น 259 กก. โคเคน 44 กก.และยาเสพติดอื่นๆ รวม 209 กก.และล่าสุดเมื่อวันที่ 27ธันวาคม 2562 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานในการเผาทำลายกัญชาของกลางรวม 10 ตัน    

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวย้ำว่าการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแนวทางของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และขอความร่วมมือช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบการกระทำหรือพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องตามกระบวนการข้างต้น สามารถแจ้ง เข้ามาได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต