ป.ป.ส.9 เม.ย.- พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงผลคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต Mr. Ong Gim Wah (นายอ่อง กิม วาห์) นักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ และผลจับกุมเครือข่ายใหญ่ 2 คดี จับกุมบุคคลตามหมายจับ 2 คน ยึดอายัดทรัพย์สิน 30 ล้านบาท
เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากโครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญที่เน้นการจับกุมตัวการใหญ่ระดับสั่งการในเครือข่ายต่างๆ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตั้งเป็นเงินรางวัลนำจับให้เจ้าหน้าที่ โดยปี68 อนุมัติ 15 ล้านบาท ตั้งเป้า จับนักค้ารายใหญ่ 200 ราย จับได้แล้ว 29 รายจ่ายแล้ว 10,880,000 บาท เป็นการจับกุมบุคคลที่หนีในประเทศ 16 เป้าหมาย จ่าย 1,080,000 บาท และจับกุมบุคคลที่หนีไปต่างประเทศ 13 เป้าหมาย จ่าย 9,800,000 บาท ซึ่งรางวัลนำจับ ยังจ่ายให้ประชาชนที่แจ้งเบาะแส 75% เจ้าหน้าที่ 25% โดยผลงานของโครงการนี้ที่เห็นได้ชัด คือ การนำตัว Mr. Ong Gim Wah (นายอ่อง กิม วาห์) มาลงโทษได้สำเร็จ ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
นายอ่อง กิม วาห์ถือเป็นนักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญระดับตัวการใหญ่ ตั้งค่าหัวนำจับตามโครงการฯ สูงถึง 1 ล้านบาท มีบทบาทหลักในการจัดหาและประสานงานซื้อขายยาเสพติดจากแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ เชื่อมโยงเครือข่ายนักค้าในหลายประเทศ ทั้งไทย มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ และ สปป.ลาว ก่อนลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศไทยไปยังประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน และออสเตรเลีย
เครือข่าย นายอ่อง กิม วาห์ ถูกจับกุมร่วมกัน 7 คน พร้อมไอซ์น้ำหนัก 998 กิโลกรัม ที่ จ.ราชบุรี เมื่อปี 2566 จากนั้น หลบหนีไปกบดานใน สปป.ลาว แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. และ สปป.ลาว ทำให้สามารถจับกุมตัวได้เมื่อปลายปี 2566 และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ปิดฉากการติดตามตัวที่ใช้เวลานานถึง 17 ปี นอกจากนี้ ยังได้ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของนายอ่อง กิม วาห์ ทั้งในประเทศไทยมูลค่ากว่า 85 ล้านบาท และในประเทศมาเลเซีย อีกกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อตัดวงจรทางการเงินของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และพบด้วยว่าหลังจับกุมนายออง กิม วาห์ ทำให้ยาไอซ์ หาย จากตลาด 40%
เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังแถลงผลการจับกุมผู้สั่งการเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญอีก 2 คดี ได้แก่ การจับกุมผู้สั่งการลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 จับกุม น.ส.พรกนก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดย น.ส.พรกนก เป็นผู้สั่งการและประสานงาน ในเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากการจับกุมข้าราชการ อบต. พร้อมของกลาง ยาบ้า 2ล้านเม็ดในพื้นที่เชียงรายยึดทรัพย์สิน 45 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ โดยล่าสุดได้ยึดอายัดทรัพย์ น.ส.พรกนก เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ เพิ่มรวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท
ส่วนอีกคดี จับกุมนายแสงเพชร หรือ “บอย” ผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ นายบอย มีบทบาทเป็น ผู้สั่งการ ลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ยึดอายัดทรัพย์สินเป็น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ และที่ดิน รวมมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท
เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไป ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการบูรณาการข่าวกรองและความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพจนนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ในการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.-119 -สำนักข่าวไทย