ตร.ท่องเที่ยว ปัดเรียกรับเงิน 2,000 บาท จากช่างภาพพาต่างชาติเที่ยว

กรุงเทพฯ 20 ม.ค.- รองโฆษก ตร. ยืนยันตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้เรียกรับเงิน 2,000 บาท จากช่างภาพที่ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่มีใบอนุญาต ล่าสุด ตำรวจท่องเที่ยวสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงคลายข้อสงสัยให้สังคมแล้ว


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดกรณีสื่อนำเสนอข่าว “โวยพาเพื่อนฝรั่งเที่ยววัดโพธิ์ โดนตำรวจจับ อ้างเข้าข่ายไกด์เถื่อน ปรับ 2 พัน” ว่า  เมื่อ 13 มกราคม เวลา 12.37 น. ตำรวจท่องเที่ยวออกตรวจเขตวัดโพธิ์ และได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัดโพธิ์ว่า มีไกด์ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ไม่แขวนบัตร พานักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จึงตรวจสอบพบว่า ไกด์ที่ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ไม่มีบัตรมัคคุเทศก์ ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบข้อเท็จจริง และอธิบายพฤติการณ์มัคคุเทศก์ที่ไม่มีบัตรว่า เป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.มัคคุเทศก์ฯ


ขณะที่ผู้ถูกเชิญตัวอธิบายว่า ไม่ได้เป็นมัคคุเทศก์ แต่รับงานถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยว โดยซื้อคอร์สถ่ายภาพและพาไปถ่ายตามสถานที่ต่างๆ เป็นเวลา 6 ชั่วโมง ได้รับค่าจ้างชั่วโมงละ 600 บาท เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับเชิญตัวไป สน.พระราชวัง แต่ผู้ถูกเชิญตัวได้อธิบายว่า ไม่ทราบว่าการอธิบายรายละเอียดสถานที่และประวัตินั้นเข้าข่ายเป็นการทำหน้าที่ของมัคคุเทศก์ พร้อมยืนยันไม่ได้มีเจตนา แค่รับงานถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีค่าจ้างตามที่ได้กล่าวมา ตำรวจจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและได้ปล่อยตัวไป ยืนยันไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์ หรือปรับ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ล่าสุด พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการท่องเที่ยว ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1 ทท.1 ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และคลี่คลายข้อสงสัยของสังคม


อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานผู้ใดทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.มัคคุเทศก์ฯ จึงขอให้ประชาชนศึกษารายละเอียด ข้อกฎหมาย หรือการกระทำใดๆ อันสุ่มเสี่ยง ผิดกฎหมายให้ดีเสียก่อน เพราะหากได้กระทำผิดไปแล้ว ตำรวจคงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด ซึ่งผู้กระทำผิดจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น