กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – “มนูญ” เสนอไอเดียยกเลิกขายปลีกอี 85 แก๊สโซฮอล์ 91 บี 20 หลังไทยมีชนิดน้ำมันขายปลีกมากที่สุดในโลก ด้าน “สนธิรัตน์” แย้มพิจารณายกเลิกบี 7 และคงบี 10 เป็นน้ำมันหลัก แม้ราคาปาล์มแพง ด้านบางจากฯ ขยายเวลาขายดีเซลยูโร 5 ทุกหยดร่วมลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ถึงสิ้นเดือนนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แม้ว่าราคาปาล์มจะขยับสูงขึ้น แต่กระทรวงพลังงานยังคงเดินหน้านโยบายให้ไบโอดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานหลักของกลุ่มดีเซล เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาปาล์มได้อย่างมีเสถียรภาพและช่วยลดปัญหา PM2.5 ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้ บี 20 เป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ แม้ว่ายอดใช้บี 20 จะยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะขายเพียง 5 ล้านลิตรต่อวัน โดยเดือนพฤศจิกายน 2562 มียอดขายเฉลี่ยประมาณ 8 ล้านลิตรต่อวัน โดยยังคงนโยบายด้านราคาบี 20 ถูกกว่าบี 7 อัตรา 2 บาท/ลิตร และบี 10 ถูกกว่า บี 7 ในอัตรา 1 บาท/ลิตร
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ประเทศไทยมีชนิดน้ำมันที่ขายปลีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงต่อผู้ค้าน้ำมัน ทางกระทรวงฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เหมาะสมว่าจะยกเลิกการจำหน่ายปลีกประเภทไหน เช่น บี 7 ควรยกเลิกหรือไม่ และเตรียมแผนประกาศอี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานหลัก ซึ่งก็กำลังดูว่าน้ำมันกลุ่มเบนซินควรจะยกเลิกประเภทใด
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจน้ำมัน ระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยมีชนิดของน้ำมันเติมรถยนต์มากที่สุดในโลกถึง 10 ชนิด โดยมีกลุ่มเบนซินถึง 6 ชนิด คือ เบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์พรีเมี่ยม แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ 91 อี 20 และอี 85 ส่วนกลุ่มดีเซลมี 4 ชนิด ทั้งหัวจ่ายดีเซลพรีเมี่ยม บี 7 บี 10 และบี 20 และเป็นปัญหาในการบริหารจัดการด้านนโยบายน้ำมันเชื้อเพลิงมีหลายชนิดมากจนผู้ประกอบการไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรจึงจะครบถ้วน และผู้บริโภคเองก็สับสนไม่รู้ว่าจะใช้เชื้อเพลิงชนิดใด จึงจะเหมาะกับรถยนต์ของตน จึงทำให้มีการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่ตรงกับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าทางกระทรวงควรยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันหน้าปั๊ม 3 ชนิด ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91 อี 85 และบี 20
ด้าน บมจ.บางจากฯ แจ้งว่าจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งยังคงมีปริมาณหนาแน่นในช่วงนี้ บางจากฯ จึงจะขยายการจำหน่ายน้ำมันดีเซลทุกชนิดมาตรฐานยูโร 5 ราคาเท่าเดิมใน กทม.ออกไปอีก 15 วัน จนถึง 31 มกราคม 2563 จากที่ปกติน้ำมันดีเซลมาตรฐานของไทย คือ ยูโร 4 การจำหน่ายยูโร 5 จะมีต้นทุนแพงกว่า และแผนงานเดิม คือ บางจากฯ จะจำหน่ายดีเซลยูโร 5 ทุกสถานีบริการน้ำมันบางจากฯ ใน กทม. ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562-16 มกราคม 2563 โดยน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 นั้น จะมีค่าซัลเฟอร์ต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน และค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับยูโร 4 และบางจากฯ มีเป็นโรงกลั่นรายแรกในเอเชียที่ผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 มาตรฐานยูโร 5 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยพร้อมให้ความร่วมมือกับแผนการของรัฐบาลผลิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลให้ได้มาตรฐานยูโร 5 ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย