รร.เซนจูรี่ปาร์ค 15 ม.ค..-ป.ป.ส. เปิดเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ เพื่อยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ นักวิชาการมีความเห็นตรงกันว่า แม้จะปลดล็อก แต่ต้องมีระบบ ควบคุมเพื่อนำไปใช้ ประโยชน์ทางการแพทย์ อย่างเหมาะสมเฉพาะเจาะจง ไม่ให้เกิดโทษ ต่อผู้ใช้และอันตรายต่อส่วนรวม
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานเปิด เวทีเสวนารับฟังความคิดเห็นเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ และภาคประชาชน เข้าร่วมเสวนาเพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และประกอบการพิจารณาวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ต่อไป
โดยเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็นนี้จะควบคู่ไปกับ การเปิดให้แสดงความคิดเห็นทางแบบสอบถามออนไลน์ ระหว่างวันที่ 3-17 มกราคม 2563 เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆ ให้ครบถ้วน
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ภาพรวมของการ เสนอความคิดเห็น ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95 เห็นว่า การยกเลิกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ จะเกิดประโยชน์มากต่อการรักษาโรค ส่วนที่คัดค้านน่าจะมีความเป็นห่วงในการนำมาใช้ หรือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ จากการผลิตยา ที่มีสรรพคุณคล้ายกระท่อม หลังจากนี้จะสรุปผลการรับฟังความคิดเห็น เสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จากนั้นจะเสนอเข้าไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและตรวจร่างโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ จะส่งต่อไปยังรัฐสภา เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาต่อไป
“กระบวนการตามกฎหมาย เพื่อปลดล็อกกระท่อม จะใช้เวลามากที่สุดช่วงกฤษฎีกาตีความ คาดว่าช่วงกลางปีนี้ รัฐสภาจะพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติฯนี้แล้วเสร็จ”นายสมศักดิ์กล่าว
ด้านผู้ร่วมเสวนา อาทิ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายวชิระ อำพนธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รศ.ดร.เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์ อาจาร์ยประจำคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภก.ดร.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทั้งผลวิจัยในห้องทดลอง การออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท การออกฤทธิ์ลดปวด การใช้กระท่อมเพื่อลดผลข้างเคียงจากการเสพสารเสพติด อื่นๆ เช่น เฮโรอีน ยาบ้า โดยต่างมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า หากกฎหมายนี้บังคับใช้ ต้องมีระดับการควบคุม การนำไปใช้ให้เหมาะสมถูกต้อง โดยเฉพาะการออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เพื่อป้องกันโทษจากการใช้เกินขนาด และความปลอดภัยของส่วนรวม .-สำนักข่าวไทย