วงจรปิดจับภาพ 2 คนร้ายต้องสงสัยยิงรถ “บิ๊กโจ๊ก”

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-รอง ผบ.ตร.ตรวจที่เกิดเหตุสั่งตำรวจในพื้นที่เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุ คาดยิงข่มขู่ไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต ขณะที่วงจรปิดจับภาพ 2 คนร้ายขี่ จยย.มาก่อเหตุและขี่วนกลับออกไป เร่งล่าตัวดำเนินคดี


เมื่อเวลา 21.40 น. คืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางรัก รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อเล็กซัส สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กจ 351 กทม. ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม. เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งบนถนนสุรวงศ์ ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า รถคันดังกล่าวถูกยิงจำนวน 7 นัด ซึ่งขณะที่เกิดเหตุนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ภายในรถ


ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแสคนร้าย และเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง พร้อมกับสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์เพื่อติดตามคนร้ายต่อไป หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ออกมาดูสภาพรถ ก่อนจะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

จากการสอบสวนทราบว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขับรถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถของ ดร.ศิรินัดดา หักพาล ภรรยา มาทำธุระบริเวณที่เกิดเหตุ หลังจากลงไปทำธุระ ก็มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยังไม่ทราบขนาดลอบยิง แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพยานเห็นว่า ผู้ก่อเหตุมีด้วยกัน 2 คน ซึ่งหลังก่อเหตุก็ได้หลบหนีไป ส่วนประเด็นการลอบยิงครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการยิงข่มขู่ไม่ประสงค์ต่อชีวิต

ในเวลาต่อมา  พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แต่การก่อเหตุดังกล่าวอุกอาจ เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมา และก่อเหตุกับข้าราชการระดับสูงที่มีผลงานมากมายสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการตำรวจ

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ครั้งที่เคยรับหน้าที่ตำรวจ มีผลงานการจับกุมหลายคดีมากมาย อาจเป็นสาเหตุครั้งนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วิระชัย เผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ และยังไม่ได้พบกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ต้องขอเวลาในการตรวจสอบ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สน.บางรัก เจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ บก.น.6 ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เวลาประมาณ 20.17 น. คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำ ไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน คนขับสวมเสื้อแจ็คเกต สีครีม กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว และคนซ้อน สวมเสื้อแจ็คเกต สีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว ทั้งคู่สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สีดำ และใส่ถุงมือสีดำ หลังก่อเหตุขี่วนรถกลับออกไป เนื่องจากในซอยเกิดเหตุเป็นซอยตัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง