fbpx

ปี 63 ตั้งเป้าส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ 1 แสนคน

ก.แรงงาน 2 ม.ค..-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยปี 2563 มีเป้าหมายส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ  100,000 คน พร้อมแนะแรงงาน ลงทะเบียนทาง TOEA เพื่อความสะดวก


หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุ ปี 2563 ตั้งเป้าหมายจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ 100,000 คน ในประเทศที่มีศักยภาพ มีโอกาสได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ เพื่อนำกลับมาพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ โดยเฉพาะในสาขาที่มีความจำเป็น โดยประเทศที่ได้รับความนิยม 4 อันดับแรก คือ 1. ไต้หวัน จำนวน 34,100 คน 2. สาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 12,200 คน 3. ญี่ปุ่น จำนวน 7,300 คน 4. อิสราเอล จำนวน 5,000 คน และประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวัน, มาเลเซีย, มาเก๊า ฯลฯ ซึ่งเป็นแนวทางในการส่งเสริมการมีงานทำที่สามารถนำเงินตราเข้าประเทศได้จำนวนมาก


ด้านนายสุชาติ  พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการจัดหางาน มีบริการลงทะเบียนหางาน แจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง หรือ แจ้งการเดินทางกลับเข้าไปทำงานต่างประเทศ (Re-entry) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทางเว็บไซต์  http://toea.doe.go.th ซึ่ง สะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดต่อราชการ และใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยให้บริการครอบคลุม การลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ แจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง แจ้งการเดินทางกลับไปทำงานต่างประเทศของคนหางานที่เดินทางกลับประเทศไทยเป็นการชั่วคราว (Re-entry) การขออนุญาตนายจ้างพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศ การขออนุญาตส่งลูกจ้างไปฝึกงานในต่างประเทศ การขอคัดรายชื่อคนหางาน การขออนุญาตจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ การขอสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ และ การขอนำคนงานเข้ารับการอบรมกรณีบริษัทจัดหางานจัดส่ง

“ ขณะนี้ กรมการจัดหางาน ได้เปิดรับสมัครคนหางานเพื่อไปทำงานบริษัท Sands China Limited มาเก๊า ธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและคาสิโน จำนวน 70 อัตรา รายได้สูงสุดกว่า 40,000 บาทต่อเดือน โดยจะเปิดรับสมัครถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 นี้ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย