อิมแพค ฟอรั่ม 23 ธ.ค.-นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ระบุต้องตั้งงบขาดดุลต่อเนื่อง แต่ไม่กระทบการเงินการคลัง เชื่อจีดีพี ไตรมาส 4 ขยายตัวร้อยละ 3 เน้นส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.45 น. วันนี้ (23 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 แก่หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อให้รับทราบนโยบาย หลักเกณฑ์และแนวทางในการจัดทำงบประมาณ กำหนดกรอบแผนงาน/โครงการ ตามนโยบายรัฐบาล ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน ทั้งความมั่นคง การสร้างความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม การเติบโตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับสมดุลและพัฒนากับการบริหารจัดการภาครัฐ รวมถึงเป็นไปตามแผนงานบูรณาการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 14 แผนงานบูรณาการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ ควรเป็นไปโดยเร็วเมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มีผลบังคับใช้ ซึ่งตามปฏิทินจะต้องพิจารณางบประมาณให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2563 ขณะเดียวกันต้องตระหนักถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดทางการเมือง ทั้งในและต่างประเทศ มาเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยรัฐบาลต้องหามาตรการมารองรับผลกระทบเหล่านี้ และต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งระยะสั้น ระยะยาว โดยระยะสั้น เช่น มาตรการการท่องเที่ยว , มาตรการชิม ช้อป ใช้ , การประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เติบโตขึ้น ส่วนไตรมาสที่ 4 คาดหวังว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3 ส่วนมาตรการระยะยาว รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าในปี 2568 ไทยต้องหลุดพ้นจากความยากจน เป็นประเทศที่พร้อมเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งในมุมมองของต่างชาติมีการประเมินถึงการปรับปรุงความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจไทย โดยให้ไทยมีระดับที่ดีขึ้น มีความสนใจมาลงทุนเพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 นั้น รัฐบาลยังกำหนดให้เป็นงบแบบขาดดุลต่อเนื่องจากงบปี 63 แต่ต้องกำหนดกรอบไม่ให้กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง และต้องหาเงินรายได้มาชดเชยงบประมาณในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่รัฐบาลทำเพียงลำพังไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย
“การทำงานต้องมีเป้าหมาย มิเช่นนั้นจะไม่เกิดผล ดังนั้นก็ไม่รู้จะอยู่ทำงานไปทำไม ซึ่งผมเองก็เช่นกัน ถ้าอยู่แล้วทำอะไรไม่ได้ ไม่มีเป้าหมาย ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล่าวตอบโต้ถึงฉายา “อิเหนา เมาหมัด” ที่สื่อมวลชนสายทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ โดยกล่าวเพียงว่า “สร้างสรรค์ๆ”.-สำนักข่าวไทย
