สกลนคร 30 พ.ย. – กระทรวงเกษตรฯ Kickoff เปิดจุดรับซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวปี 63 ยืนยันมีพันธุ์ข้าวเพียงพอแจก ชาวนามั่นใจได้
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดจุดรับซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวประจำปี 2563 ณ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสกลนคร อ.พังโคน จ.สกลนคร ว่า กรมการข้าวเป็นหน่วยงานหลักในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีของประเทศไทยที่มีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งฤดูนาปีและนาปรังกว่า 70 ล้านไร่ โดยมีปริมาณความต้องการเมล็ดพันธุ์ประมาณ 1 ล้านตันเศษต่อปี สำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวปี 2562/2563 เพื่อใช้เพาะปลูก ปี 2563/2564 กรมการข้าวจะมีปริมาณเมล็ดพันธุ์รวมทั้งสิ้น 110,000 ตัน ประกอบด้วย เมล็ดพันธุ์คงคลังในสตอก 13,000 ตัน เมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้ในฤดูฝนปี 2562 (นาปี) 58,000 ตัน (จะได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 62 – มี.ค. 63) เมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้จากฤดูแล้ง 2563 (นาปรัง) 26,000 ตัน (จะได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. – พ.ค. 63) และปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวรับซื้อจากแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ของศูนย์ข้าวชุมชนและเกษตรกรนาแปลงใหญ่ แล้วนำมาปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ภายในศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวฯ 13,000 ตัน
สำหรับเป้าหมายการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวปีต่อไป รัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้เพียงพอกับความต้องการซื้อของชาวนา กรมการข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีทั่วประเทศ 29 แห่ง ได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ได้ 260,000 ตัน ภายในปี 2565 โดยแบ่งเป้าหมายการผลิตออกเป็น 3 ปี ปี 2563 เป้าหมาย 150,000 ตัน แบ่งเป็น ข้าวหอมมะลิ 50,000 ตัน ข้าวขาว 70,000 ตัน ข้าวเหนียว 15,000 ตัน และข้าวหอมปทุม 15,000 ส่วนปี 2564 เป้าหมาย 200,000 ตัน และปี 2565 เป้าหมาย 260,000 ตัน ทำให้ชาวนา 1,062,500 ครัวเรือนได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีราคาถูกสามารถนำไปเพาะปลูกในพื้นที่ 17 ล้านไร่ ผลผลิตมีปริมาณและคุณภาพข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไร่ละ 476 กก. เป็นไร่ละ 523 กก. คิดเป็นผลผลิตข้าวส่วนที่เพิ่มขึ้นปริมาณ 799,000 ตันมูลค่า 7,990 ล้านบาท เชื่อมั่นว่าในอีก 3 เดือน จะผลิตได้ครบ เพื่อแจกให้กับเกษตกรรได้ทันในช่วงฤดูนาปี โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ
นายประภัตร กล่าวต่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภาคอีสานที่ประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งหาเมล็ดพันธุ์ข้าวแจกจ่ายให้เกษตรกรเพาะปลูกให้เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมศูนย์ข้าวทั่วประเทศ เพื่อวางแนวทางเพิ่มศักยภาพการผลิตและสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในการวางเป้าหมายการผลิตในปีต่อไป มั่นใจว่าจะผลิตได้เพียงพอเพื่อนำมาแจกให้เกษตกรชาวนาที่ประสบภัยเสียหายกว่า 6 ล้านไร่ อีกทั้งยังเปิดโอกาสรับซื้อเมล็ดพันธุ์จากผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์และสมาชิกสหกรณ์การเกษตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่ดี ซึ่งส่งผลกระทบให้เมื่อปลูกไป 2 เดือนเมล็ดข้าวจะแดง ดีด เด้ง เกิดจากข้าวคุณภาพต่ำ
นอกจากนี้ รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีผลการประกวดข้าวโลก 2019 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยข้าวพันธุ์ ST24 ของเวียดนามชนะการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก ส่วนข้าวหอมมะลิจากไทยเป็นอันดับ 2 โดยไทยเสียแชมป์ต่อเนื่อง 2 ปี ว่า ได้สั่งการให้กรมการข้าว โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาข้าวทุกแห่งเร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพื่อให้มีคุณภาพครองใจผู้บริโภคและตรงตามข้อกำหนดในการประกวด อาทิ ความสวยงาม เมล็ดมีความยาว นุ่ม มีกลิ่นหอม เป็นต้น จึงได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อตั้งเป็นเงินรางวัลให้กำลังใจในการทำงานกับศูนย์วิจัยข้าวทั้ง 28 แห่ง ให้ไปช่วยกันหาวิธีการที่จะทำอย่างไรให้ข้าวไทยกลับมาครองแชมป์ข้าวโลกได้ในปีหน้า ที่สำคัญต้องเป็นสายพันธุ์ที่ใช้น้ำน้อยและให้ผลผลิตสูง.-สำนักข่าวไทย