เกษตรฯ จับมือเอกชนเล็งตั้งกองทุนต่างประเทศ 3,000 แห่ง ช่วยเกษตรกรไทย

กรุงเทพฯ  4 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ จับมือภาคเอกชน เล็งตั้งกองทุนต่างประเทศ 3,000 แห่ง ช่วยเกษตรกรไทย


นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาคการเกษตรของไทยเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศเป็นรากฐานของการสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศและของโลก ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในภาคการผลิตทางการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีนโยบายในการช่วยยกระดับรายได้เกษตรกรไทยกว่า 400,000 ราย ซึ่งมีที่ดินทำเกษตรแปลงใหญ่ 5.8 ล้านไร่ หรือมีพื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่กว่า 6,000 แปลงในประเทศไทย 

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคเกษตรด้านการกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภค และขนส่งทั้งในและต่างประเทศ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส  เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ จึงได้เรียกร้องให้แต่ละประเทศมีมาตรการแก้ไขวิกฤติอาหารขาดแคลนทั่วโลก เพื่อสนับสนุนความต้องการของตลาดโลกในสภาวะวิกฤติขาดแคลนอาหาร


นายประภัตร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงร่วมกับภาคเอกชนหารือแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเบื้องต้นวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการเกษตรร่วมกันกับบริษัท แคปปิตอล ทรัสต์ กรุ๊ป และตัวแทนจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมจัดตั้งโครงการ “กองทุนต่างประเทศ 3,000 กองทุนเพื่อสนับสนุนเกษตรไทย” เพื่อตั้งเป็นกองทุนดิจิทัลสำหรับลงทุนธุรกิจเกษตรในประเทศไทย โดยใช้กลยุทธ์การตั้งกองทุนต่างประเทศ เพื่อยกระดับธุรกิจเกษตรในประเทศไทย สร้างความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน และเพื่อเป็นช่องทางในการเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร และนักลงทุนสถาบันทั่วโลกที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมกว่า 40 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในการขยายช่องการช่วยเหลือเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้มีมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาทิ โครงการเยียวยาเกษตรกร เป็นต้น 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนที่เข้าร่วมหารือจะร่วมมือกับกองทุนโกลบอลบล็อกเชนฟันต์แพลทฟอร์มในการก่อตั้ง 3,000 กองทุน เพื่อดึงนักลงทุนจากต่างประเทศที่มีศักยภาพในการช่วยกระจายสินค้าไทย อย่างไรก็ตาม เดือนมีนาคม 2563 มีรายงานข้อมูลสถิติจากอุตสาหกรรมกองทุนทั่วโลกระบุว่ามีนักลงทุนถอนเงินมากถึง 2.7 ล้านล้านบาท ในช่วงโควิด-19 ส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วโลกและตระหนักถึงความต้องการอาหารมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทำให้นักลงทุนสนใจกองทุนธุรกิจสมาร์ทฟาร์มมิ่งในประเทศไทย อีกทั้งนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ยังมุ่งเน้นเรื่องสินค้าเกษตรปลอดภัย มีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งโครงการนี้สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรหลายล้านคน โดยการเชื่อมโยงกันระหว่างรัฐบาล ภาคเอกชน นักลงทุน กลุ่มธุรกิจ ในต่างประเทศทั่วโลกอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง