แอตแลนตา 21 พ.ย.- ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้าประสานเสียงสนับสนุนกระบวนการสอบสวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน แต่ยังคงนำเสนอนโยบายที่แตกต่าง
ในการโต้วาทีครั้งที่ 5 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจียเมื่อวานนี้ ผู้สมัคร 10 คนจากทั้งหมด 17 คนนำเสนอนโยบายที่แตกต่างกันทั้งเรื่องการประกันสุขภาพและการเก็บภาษีคนรวย แต่โจมตีกันน้อยลงเมื่อเทียบกับการโต้วาทีที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากกระบวนการไต่สวนสาธารณะเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีวันที่ 4 เพิ่งเสร็จสิ้นไปได้ไม่กี่ชั่วโมงว่า การที่ทรัมป์พยายามกดดันยูเครนให้สอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตและบุตรชายเป็นตัวอย่างการทุจริตตัวอย่างหนึ่งของรัฐบาลทรัมป์
ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน รัฐแมสซาชูเซตส์ วัย 70 ปี กล่าวว่า จะต้องสร้างหลักการเรื่องไม่มีใครสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ และห้ามแต่งตั้งผู้บริจาคทางการเมืองเป็นเอกอัครราชทูต ซึ่งหมายถึงการที่ทรัมป์แต่งตั้งนายกอร์ดอน ซอนด์แลนด์ ผู้บริจาคทางการเมืองเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหภาพยุโรป นายซอนด์แลนด์ให้การเมื่อวานนี้ว่า ทำตามคำสั่งประธานาธิบดีเรื่องกดดันยูเครน ขณะที่นายไบเดน วัย 77 ปี กล่าวว่า จะให้กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะฟ้องดำเนินคดีอาญากับทรัมป์ในเรื่องนี้หรือไม่หลังทรัมป์พ้นตำแหน่งไปแล้ว เขาจะไม่ดำเนินการเองเพราะไม่ต้องการทำตามทรัมป์ที่เที่ยวฟ้องคนอื่น ด้าน ส.ว.คามาลา แฮร์ริส รัฐแคลิฟอร์เนีย วัย 55 ปี ตำหนิทรัมป์ว่า ไร้ประสบการณ์ในการรับมือกับเกาหลีเหนือและถ่ายรูปคู่กับผู้นำเกาหลีเหนือโดยไม่ได้อะไรกลับมา ส่วน ส.ว.เบอร์นี แซนเดอร์ส รัฐเวอร์มอนต์ วัย 78 ปี วิจารณ์ทรัมป์ที่ดำเนินนโยบายต่างประเทศด้วยการทวีตตอนตีสาม
การโต้วาทีนี้มีขึ้นก่อนที่สนามเลือกตั้งตัวแทนพรรคเดโมแครตจะเปิดฉากที่รัฐไอโอวาเป็นแห่งแรกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ปีหน้า ผลสำรวจระดับประเทศพบว่า ศึกเดโมแครตจะเป็นการชิงชัยกันระหว่างผู้สมัครสายกลางอย่างไบเดนกับผู้สมัครหัวก้าวหน้าอย่างวอร์เรนและแซนเดอร์ส.- สำนักข่าวไทย