กระบี่ 18 พ.ย.- “อ่าวมาหยา” กระบี่ ปิดยาวส่งผลดีชัดเจน นิเวศน์ท้องทะเลฟื้นเต็มที่ หลังเสื่อมโทรมจากการท่องเที่ยว ล่าสุดพบอีก “ฉลามหูดำ” ยกฝูงใกล้ชายหาด ทีมวิจัยกรมอุทยานฯ เร่งศึกษาข้อมูลประชากรสัตว์ทะเลหายาก
นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า จากมาตรการปิดอ่าวมาหยาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2561 เป็นต้นมา ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลให้สมบูรณ์มาก ทำให้พบสัตว์ทะเลหายากบ่อยขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ประจำหน่วยพิทักษ์อ่าวมาหยา ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ สามารถบันทึกภาพฝูงฉลามหูดำหลายสิบตัว บางตัวยาวกว่า 2 เมตร แหวกว่ายใกล้ชายหาดอ่าวมาหยานานหลายชั่วโมง ก่อนว่ายออกไปบริเวณแนวปะการังน้ำลึก ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ดีมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้อ่าวมาหยาก็พบฝูงฉลามหูดำมาแล้ว
นายวรพจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทีมวิจัยของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลประชากรของฉลามหูดำที่เชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น อีกทั้งมีข้อมูลจากต่างประเทศมาประกอบกันว่าช่วงนี้ประมาณปลายปีถึงต้นปีน่าจะเป็นช่วงผสมพันธุ์ของฉลามหูดำ หากฉลามหูดำผสมพันธุ์ที่อ่าวมาหยา จะทำให้อ่าวมาหยามีความสำคัญมากขึ้นทางระบบนิเวศน์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การปิดอ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ สืบเนื่องจากกรมอุทยานฯ พบว่าธรรมชาติเสื่อมโทรมมาก อีกทั้งพบสารเคมีบางชนิด เช่น ครีมกันแดดที่นักท่องเที่ยวใช้ก่อนลงเล่นน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งส่งผลกระทบให้เกิดปะการังฟอกขาว จึงให้ปิดการท่องเที่ยวอ่าวมาหยา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายน 2561 และขยายเวลาปิดอ่าวต่ออีก 1 เดือน กระทั่งมีมติปิดยาวอย่างไม่มีกำหนด เพื่อต้องการระบบนิเวศชายหาดฟื้นตัวในระยะยาว และบริหารจัดการพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย