กระบี่ 13 ก.พ. – ผู้รับผิดชอบเขตอุทยานฯ แจงเหตุฉลามหูดำตายใต้ทะเล บริเวณเกาะพีพี พร้อมลูกอ่อน 4 ตัว ตรวจสอบพบส่วนหัวของฉลามไปติดในซากหมวกสานปีกกว้างที่นักท่องเที่ยวทำหล่น ไม่ใช่อวน ทำให้ฉลามว่ายน้ำต่อไม่ได้ จึงตายลง
จากกรณีครูสอนดำน้ำอิสระที่เกาะพีพี จ.กระบี่ นำภาพฉลามหูดำตายใต้ทะเล ลักษณะคล้ายถูกอวนรัด พร้อมลูกอ่อน 4 ตัว ที่หลุดออกจากท้องแม่ บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวโลกออนไลน์ และวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างนั้น
หลังทราบเรื่อง ผู้รับผิดชอบเขตอุทยานฯ ดังกล่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ส่วนหัวของฉลามไปติดในซากหมวกสานปีกกว้างที่นักท่องเที่ยวทำหล่น ไม่ใช่อวน คาดว่าว่ายเข้าไปชนและชิ้นส่วนของหมวกไปติดพันกับปะการัง ทำให้ฉลามว่ายน้ำต่อไปไม่ได้ จึงตายลง เนื่องจากฉลามต้องว่ายน้ำตลอดเวลา หากหยุดว่ายจะตาย ขณะที่ปลาชนิดอื่นมีถุงลม ทำให้หายใจได้แม้ไม่เคลื่อนที่ แต่ฉลามไม่มี ดังนั้น ถ้าหยุดว่ายจะทำให้ไม่มีออกซิเจนไหลผ่านเหงือก จึงไม่มีออกซิเจนใช้ในการหายใจ พร้อมขอนักท่องเที่ยวและชาวประมง ช่วยกันดูแล ไม่ควรทิ้งเศษขยะ เครื่องมือประมง หรือวัสดุแปลกปลอม ลงท้องทะเล เพราะจะเกิดอันตรายแก่สัตว์ใต้น้ำได้. – สำนักข่าวไทย