กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – เกษตรฯ เร่งช่วยเหลือชาวนาภาคอีสาน หลังผลผลิตเสียหายจากโรคไหม้คอรวง เตรียมประสานกระทรวงพาณิชย์ชะลอขายข้าวหอมมะลิ หวั่นพ่อค้าโก่งราคาเหมือนข้าวเหนียว ชี้แม้ผลผลิตน้อย แต่ยังเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจการแพร่ระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าว พบความเสียหาย 5 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานีรวมพื้นที่ 550,000 ไร่ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ระบาดมากที่สุดกว่า 300,000 ไร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นเขตภัยพิบัติโรคพืชแล้ว เบื้องต้นเกษตรกรจะได้รับค่าชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลัง 1,113 บาทต่อไร่ รายละไม่เกิน 20 ไร่
นายประภัตร กล่าวต่อว่า ล่าสุดอัตราการระบาดลดลง เนื่องจากชาวนาเกี่ยวข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข 15 ซึ่งเกิดโรคไปกว่าร้อยละ 80 แล้ว อีกทั้งได้รับการสนับสนุนโดรน 3 ลำจากภาคเอกชนฉีดพ่นสารไตรโคเดอร์มาแปลงข้าวหอมพันธุ์ดอกมะลิ 105 ซึ่งจะเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อราก่อโรคไหม้คอรวง รวมทั้งมอบหมายให้กรมการข้าวจัดส่งไตรโคเดอร์มาให้เกษตรกรทั้ง 5 จังหวัดฉีดพ่นในแปลงข้าว ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับแปลงที่เป็นโรค
สำหรับแปลงข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข 15 เกิดโรคไหม้คอรวงส่งผลให้เมล็ดลีบนั้น ผลผลิตลดลงจาก 400 กิโลกรัมต่อไร่ เหลือประมาณ 100 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อรวมกับความเสียหายจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยที่ผ่านมาคาดว่าประมาณ 700,000 ไร่ จากพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิทั้งประเทศกว่า 3 ล้านไร่ ผลผลิตลดลง 3 ล้านตัน โดยประมาณการณ์ว่าปี 2562 จะได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิ 6-7 ล้านตัน ลดลงกว่าปีที่แล้วซึ่งได้ 8 ล้านตัน ขณะนี้มอบหมายกรมการข้าวร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตรสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่รายได้ลดลงจากการที่ผลผลิตเสียหาย ซึ่งจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายประภัตร ยืนยันว่า ปริมาณข้าวหอมมะลิเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ แต่ผลผลิตที่ลดลงอาจส่งผลกระทบด้านราคาบ้าง จึงจะประสานกระทรวงพาณิชย์จัดทำโครงการชะลอการขายข้าวของชาวนา ลักษณะเดียวกับโครงการจำนำยุ้งฉาง เพื่อไม่ให้ข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดพร้อมกันพ่อค้าอาจฉวยโอกาสจำหน่ายข้าวหอมมะลิแก่ผู้บริโภคในราคาสูงเช่นเดียวกับข้าวเหนียวที่ผลผลิตลดลงจากภัยแล้งปีนี้ ยันยันว่าจะดูแลเกษตรกรให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและไม่ให้ผู้บริโภคต้องเดือดร้อนจากราคาข้าวที่สูงขึ้น
นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า นายประภัตร กำชับให้เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคไหม้คอรวงข้าว โดยการนำเมล็ดพันธุ์มาคลุกสารไตรโคเดอร์มาก่อนหว่านใช้เมล็ดพันธุ์ไม่เกิน 10 -15 กิโลกรัมต่อไร่ อีกทั้งต้องไม่ใส่ปุ๋ยยูเรียและปุ๋ยสูตรที่มีธาตุไนโตรเจนสูงมากจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้กอข้าวแน่นเกิน อากาศไม่ถ่ายเทและความชื้นสูง เมื่อมีสปอร์เชื้อราโรคไหม้มาติดต้นข้าวจะทำให้ระบาดอย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย